โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ หนุนกำไรGULF เพิ่มขึ้น 34%

2024-08-09 HaiPress

GULF โชว์กำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 34% จากนี้พร้อมเดินหน้าลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัล

น.ส.ยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 32,617 ล้านบาท ลดลง 3% จากไตรมาส 2 ปี 2566 จากราคาขายไฟฟ้าเฉลี่ยที่ลดลงจากราคาค่าก๊าซธรรมชาติและค่า Ft ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 4,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จาก 3,556 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของกลุ่มบริษัทฯ มีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โดยโครงการกัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP ภายใต้กลุ่ม IPD กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์หน่วยผลิตที่ 3 ในเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2567 GULF รับรู้ผลการดำเนินงานเต็มไตรมาสของโครงการ GPD หน่วยที่ 1-3 (กำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,987.5 เมกะวัตต์) ซึ่งทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2566 และโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง (HKP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP กำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,540 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์หน่วยผลิตที่ 1 (กำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์) เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ GULF รับรู้กำไรจากการดำเนินงานเต็มไตรมาสของโครงการ HKP หน่วยที่ 1 ในไตรมาสนี้

นอกจากนี้ ในไตรมาส 2 GULF รับรู้ส่วนแบ่งกำไร core profit จากการลงทุนใน INTUCH จำนวน 1,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 269 ล้านบาท หรือ 20% จาก 1,352 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2566 โดยสาเหตุหลักมาจากผลประกอบการของ AIS ที่ดีขึ้น จาก ARPU ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับต้นทุนที่ลดลงจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงประมาณการการเติบโตของรายได้รวมในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 25-30% โดยโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ ยังคงดำเนินไปตามแผน สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โครงการโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 4 (662.5 เมกะวัตต์) มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน มีแผนที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ 5 โครงการในเดือนธันวาคม 2567

สำหรับโครงการอื่น ๆ ของบริษัทฯ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนายังเป็นไปตามแผน โดยโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 มีกำหนดถมทะเลแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2567 และจะเริ่มก่อสร้าง LNG terminal ในช่วงกลางปี 2568 ในขณะที่โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มีกำหนดรับมอบพื้นที่จากการท่าเรือเพื่อเริ่มก่อสร้างท่าเรือในปลายปี 2568 ในส่วนของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองนั้น สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) มีกำหนดจะเปิดดำเนินการในปี 2568 ขณะที่สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) มีกำหนดจะเปิดดำเนินการในปี 2569 ในส่วนของธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจศูนย์ข้อมูล GSA DC (data center) ของกลุ่มบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยเฟสแรกซึ่งมีขนาด 25 เมกะวัตต์มีแผนเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2568

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

สลากดิจิทัลแตก 162 ล้าน เศรษฐีใหม่ถูกคนเดียว 10 ใบ รวยเละ 60 ล้าน

07-03

ว้าว! น้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ลดราคา 30 สต. มีผลตี 5 พรุ่งนี้ ส่วนดีเซล คงเดิม

07-03

คุณสู้เราช่วย เฟส 2 มีโอกาสปลดหนี้ ค้างจ่าย 1 วันก็เข้าร่วมได้

07-03

ดัชนีหุ้นไทยปิดบวก 20.45จุด ดัชนีทะลุ 1,100 จุด รับ ‘อิ๊งค์’ หยุดปฏิบัติหน้าที่

07-03

จีเอ็มเอ็มโตสวนกระแสเศรษฐกิจ รายได้พุ่งเกือบ 20% รับตลาดเพลง-คอนเสิร์ตโตเดือด

07-03

‘ชาติศิริ’ ธ.กรุงเทพ มั่นใจสินเชื่อโตฝ่ามรสุม การเมืองไทย-การค้าโลก

07-03

ส่ง ‘สุดซอย-กรมโรงงาน’ ลงพื้นที่สอบหาสาเหตุโรงทิชชูไฟไหม้ สั่งปิดโรงงานชั่วคราว

07-03

นายกฯ แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ การเมืองไม่แน่นอน กดดันเศรษฐกิจไทย

07-03

‘ผู้ว่าททท.’ขอโทษ ลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่งมีปัญหา แจงเหตุ-แนะทำตามนี้

07-03

เอกชนมองไทยต้องไปต่อ ครม.ใหม่ทำงานหนักขึ้น ชี้นายกฯอิ๊งค์หยุดหน้าที่ลดอุณหภูมิการเมือง

07-03

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap