จับตาว่างงานสหรัฐ ฉุดเศรษฐกิจโลกถดถอย ชี้ท่องเที่ยวแรงส่งเศรษฐกิจไทย

2024-09-12 HaiPress

เศรษฐกิจโลกส่อถดถอย จับตาปัจจัยว่างงานสหรัฐ ชี้ท่องเที่ยวเป็นแรงส่งเศรษฐกิจไทย

วันที่ 12 ก.ย. นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังจากเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีแรก คาดว่าทั้งปี 67 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.7% และขยายตัว 2.8% ในปี 68 แม้ว่าขณะนี้ตลาดจะเริ่มกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบรุนแรงได้ โดยเฉพาะในสหรัฐ เพราะอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเร็วจนเข้าเกณฑ์ของดัชนีเตือนเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ

ขณะที่เศรษฐกิจโลกจะมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือ ธนาคารกลางหลักจะทยอยลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในระยะข้างหน้า จากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ปรับชะลอลง ซึ่งจะช่วยดูแลเศรษฐกิจและลดโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยได้ โดยในช่วงที่เหลือของปี 67 และปี 68 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2% และปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศจะกดดันให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวชะลอลงและเปราะบางมากขึ้นในระยะปานกลาง

นอกจากนี้ ประเมินเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำในปี 67 คาดขยายตัว 2.5% และในปี 68 ขยายตัว 2.6% จากการท่องเที่ยวยังเป็นแรงส่งหลักที่เหลืออยู่ของเศรษฐกิจไทย ประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 68 ไว้ที่ 39.4 ล้านคน โดยการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังถูกกดดันจากแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ ขณะที่การส่งออกไทยปี 68 ยังเติบโตต่ำกว่าในอดีต ส่วนหนึ่งจากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง

นายสมประวิณ กล่าวว่า ภาคธุรกิจไทยยังต้องเจอความท้าทายเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่อาจสูญเสียกำลังการผลิตในประเทศไปราว 40% หากการปรับตัวของค่ายรถยนต์ไม่เท่าทันกับกระแสนิยมที่กำลังเปลี่ยนไป และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเจอแรงกดดัน จากกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบาง อีกทั้ง ยังถูกซ้ำเติมจากการตีตลาดจากสินค้านำเข้า กระบวนการผลิตและการตลาดล้าสมัย ดังนั้น การผลักดันให้ภาคธุรกิจเหล่านี้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต้องพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ควบคู่กับนโยบายยกระดับความสามารถทางการเเข่งขันในระยะยาว

ด้านอัตราดอกเบี้ยของไทย คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยนโยบายเดือน ธ.ค.นี้ และต่อเนื่องช่วงต้นปี 68 จะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2% จากสัญญาณอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวชัดเจนขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากภาวะการเงินตึงตัวนาน สำหรับค่าเงินบาทช่วงที่ผ่านมาแข็งค่าเร็ว ซึ่งในระยะสั้นเงินบาทอาจอ่อนค่าเล็กน้อยจากปัจจัยเศรษฐกิจของสหรัฐ คาดสิ้นปี 67 เงินบาทอยู่ที่ 34-34.5 บาทต่อดอลลาร์ และในปี 68 เงินบาทอยู่ที่ 33-34 บาทต่อดอลลาร์

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

‘พิชัย’ ปิดดีลเอฟทีเอ ‘ไทย-ภูฏาน’ เตรียมลงนามเม.ย.นี้สร้างแต้มต่อส่งออก

02-21

หุ้นไทยเช้านี้เปิดลบ 6.95 จุด จากเฟดไม่รีบลดดอกเบี้ย

02-21

ราคาทองวันนี้ 20 ก.พ.68 ร่วง 100 บาท

02-21

‘เจ้าสัว’ ชี้ ขนมขบเคี้ยวโต ตั้งธง 3 ปี รายได้ 2.2 พันล้านบ.

02-21

ค่าเงินบาท 20 ก.พ.แข็งค่า 33.68 บาท จับตามาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐ

02-21

ค่าไฟหนังยาว!! ‘พีระพันธุ์’ ดึงกฤษฎีกาถก ยันข้อเสนอกกพ.ลด 17 สตางค์ ‘ทำไม่ได้’

02-21

SC เตรียมขายบ้านสุดหรูหลังละ 200 ล้านบาท

02-21

แวะปั๊มด่วน!! แก๊สโซฮอล์-เบนซินขึ้นราคา 30 สต. ดีเซลคงเดิม มีผลพรุ่งนี้

02-21

ดัชนีวันนี้ปิดลบ 16.66 จุด กังวล “ทรัมป์” ขึ้นภาษีรถยนต์

02-21

BBL คาดเศรษฐกิจไทยปี 68 จีดีพี 3% รับแรงหนุนการส่งออก-ท่องเที่ยว

02-21

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap