เปิดปัจจัยราคาทอง ลุ้นผลประชุมเฟด หนุนเงินบาททำสถิติแข็งค่ารอบ 19 เดือน

2024-09-14 HaiPress

สรุปค่าเงินบาทรอบสัปดาห์ แข็งค่าทำสถิติในรอบ 19 เดือน ตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และรอผลประชุมเฟด โดยคาดสัปดาห์หน้า เงินบาทในกรอบ 33.00-33.80 บาทต่อดอลลาร์

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทแข็งค่าสุดรอบ 19 เดือนตามทิศทางราคาทองคำโลกที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เงินดอลลาร์ ขาดแรงหนุน เนื่องจากตลาดยังรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด วันที่ 17-18 ก.ย. นี้

ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ ได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อคืนของนักลงทุนท่ามกลางการปรับการคาดการณ์ของตลาดมามองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ อาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในขนาดที่มากกว่า 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. นี้

อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นและแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 19 เดือนครั้งใหม่ที่ 33.26 บาทต่อดอลลาร์ ตามการพุ่งขึ้น ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก และการแข็งค่าของเงินเยนซึ่งมีแรงหนุนจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นในระยะข้างหน้า

นอกจากนี้ เงินบาทน่าจะมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ สวนทางเงินดอลลาร์ ที่อ่อนค่าลง หลังธนาคารกลางยุโรปยังไม่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมหน้า (แม้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมรอบนี้) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิตก็ออกมาแย่กว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดด้วยเช่นกัน

ในวันศุกร์ที่ 13 ก.ย. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.32 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.52 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ก.ย. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 9-13 ก.ย. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 9,474 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 3,692 ล้านบาท (แบ่งเป็น ซื้อสุทธิพันธบัตร 3,752 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 60 ล้านบาท)

สัปดาห์ระหว่างวันที่ 16-20 ก.ย. ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 33.00-33.80 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค หลังผลการประชุมนโยบายการเงิน การเปิดเผยตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ และ Dot Plots ของเฟด (17-18 ก.ย.)

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ก.ย. ตัวเลขยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้าน และยอดขายบ้านมือสองเดือน ส.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (19-20 ก.ย.) ธนาคารกลางอังกฤษ (19 ก.ย.) การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน รวมถึงข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ของอังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น ด้วยเช่นกัน

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

วิดีโองาน Experience Macao Limited Edition โปรโมทที่สยามพารากอน + อาคารอินเตอร์เชนจ์ 21 และศูนย์การค้ามาบุญครอง

10-18

เสนา เปิด 5 ปัจจัยเสี่ยงกระทบอสังหาฯ บ้านแพงรายได้คนซื้อไม่เพิ่ม

10-17

หนี้ครัวเรือนไทย 89.6% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี เปิดสาเหตุ 4 เรื่องหลัก

10-17

ดัชนีหุ้นปิดบวก 19.98 จุด เด้งรับ กนง.ลดดอกเบี้ย

10-17

กรุงศรี เปิด 4 กองทุน RMF รับดอกเบี้ยขาลง

10-17

“ประเสริฐ”ลงนามตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ สคบ. เอี่ยวคดีดิไอคอนกรุ๊ป

10-17

‘แบงก์ชาติ’ ยืนยัน ‘ลดดอกเบี้ย 0.25%’ ไม่ใช่แรงกดดันทางการเมือง

10-17

ฮือฮา เลขท้ายออก 00 ครั้งแรก 12 ปี สลากดิจิทัลแตก 156 ล้าน

10-17

“คลัง” เตรียมออกมาตรการ สินเชื่อกระตุ้นอสังหาฯ 55,000 ล้าน เพิ่ม“ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง”

10-17

โฮมโปร ทุ่มงบ 115 ลบ.เปิดสาขาแม่สอดรับเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-ชายแดนเมียวดี

10-17

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap