พิชัย ถก “ทูตสหรัฐ” ดันการต่ออายุ GSP-ลงทุน ดาต้า เซ็นเตอร์ในไทยเพิ่ม

2024-10-17 HaiPress

“พิชัย” ถก ”ทูตสหรัฐ“ ดันการต่ออายุโครงการ GSP ชวนลงทุน Data Center และ Cloud Service เพิ่มมูลค่าการค้า ชูไทยพร้อมเป็น Food Security Hub

นายพิชัย  นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการหารือกับนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ณ กระทรวงพาณิชย์ ว่าเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกันหลังจากที่ได้เข้ารับตำแหน่ง โดยเน้นย้ำว่าไทยและสหรัฐเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมให้ความร่วมมือกับสถานทูตสหรัฐ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน

นายพิชัย กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ได้แจ้งให้สหรัฐ ทราบว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เสริมสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการค้าและการลงทุนและพร้อมต้อนรับการมาเยือนของคณะนักธุรกิจ USABC (U.S.-ASEAN Business Council – USABC) ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ทั้งนี้ ไทยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ และสหรัฐ ก็พร้อมสนับสนุนภาคเอกชนของสหรัฐให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันทราบว่า บริษัท HP ของสหรัฐ ก็อยู่ระหว่างการเข้ามาลงทุนในไทย พร้อมกันนี้ ได้ขอบคุณบริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐ อย่างบริษัท Google และ Amazon ที่ได้ยืนยันแผนการลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ในไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของภูมิภาค พร้อมทั้งได้เชิญชวนบริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐอื่นๆ เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม นอกจากนี้ ไทยยังมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหาร (Food Security Hub) โดยเป็นคลังสินค้าและส่งออกอาหารให้กับทุกประเทศที่ต้องการ

นายพิชัย กล่าวต่ออีกว่า ไทยได้ขอให้สหรัฐพิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิ GSP (สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร) ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ อีกทั้ง ได้แสดงความยินดีต่อการสรุปผลแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Work Plan) ที่ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL)

ในปี 2566 สหรัฐ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 2 ของไทย รองจากจีน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 67,659.89  ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหรัฐ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐ 48,352.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องโทรสารโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขณะที่สหรัฐเป็นแหล่งนำเข้าลำดับ 3 ของไทยมีมูลค่าการนำเข้าจากสหรัฐ 19,307.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบเคมีภัณฑ์ ก๊าซธรรมชาติ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

Letter from China: Caves, mountains in China's Guilin embody myth, memory, art

10-30

แจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ย. 2568 ได้กี่บาท รัฐโอนเงินเพิ่ม ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง

10-29

รัฐบาลยืนยันเอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธ ไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมาย

10-29

ผิดหวังนายกฯ ไม่รักษาผลประโยชน์ประเทศ MOU แร่หายากให้สิทธิ์ต่างชาติเหนือคนไทย

10-29

ปตท.เลิกกิจการ ‘สวอพ แอนด์ โก’ ธุรกิจสลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

10-29

พิชัย โต้สมัยเป็นหัวหน้าทีมเจรจาสหรัฐ ไม่เคยหารือประเด็นแร่หายาก แนะรัฐบาลระวังปมภูมิรัฐศาสตร์

10-29

“มิตซูบิชิ” พร้อมใส่ใจ-ดูแลบริการ

10-29

มูดี้ส์คงอันดับเครดิต ‘ไทยออยล์’ ชี้งบดุลแกร่ง ลดหนี้ต่อเนื่อง CFP เดินหน้าตามแผน

10-29

ครึ่งวันหุ้น ‘เถ้าแก่น้อย’ร่วงไปแล้ว 9.90% หลัง ‘ต๊อบ’ ประกาศลาออก

10-29

รมว.คลัง เปิดแนวทางการออมหักภาษีใหม่ ใช้แทน RMF และ LTF

10-29

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap