นายกฯ ถกหัวหนัาหน่วยราชการ เข็นงบลงทุน 9.6 แสนล้าน เดินหน้าเศรษฐกิจ

2024-11-04 HaiPress

นายกฯ เข็นงบลงทุน 9.6 แสนล้าน คลังเร่งดันเกินเป้า 80% ด้านพิชัย แบะท่าลดเงินเข้ากองทุนเอฟไอดีเอฟ แลกลดดอกเบี้ยช่วยหนี้

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2567 ที่กระทรวงการคลัง ว่า กระทรวงการคลัง ถือเป็นเสาหลักการคลังของประเทศที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้ยั่งยืน ซึ่งเศรษฐกิจไทยวันนี้เจอปัญหารุมเร้าหลายด้าน ทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน และความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองโลก

ดังนั้น คลังต้องแก้ไขปัญหาที่สะสม พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเศรษฐกิจให้กับประเทศ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น ซึ่งเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะงบลงทุนที่มีมูลค่า 9.6 แสนล้านบาท หรือมากกว่า 5% ของจีดีพีประเทศ และในฐานะที่เป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน ขอให้ช่วยกันผลักเม็ดเงินลงทุนทุกบาทลงสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อสร้างจีดีพี ให้กับประเทศและสร้างรายได้ให้กับประชาชน

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นายกฯ ได้มอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนทุกกระทรวงใน 2 เรื่อง คือการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน 9.6 แสนกว่าล้านบาท ให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้ โดยในปีนี้คลังตั้งเป้าหมายจะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายให้ได้ 80% ซึ่งจะช่วยการเติบโตของเศรษฐกิจได้ทันทีโดยไม่ต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติม สำหรับผลการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 68 ในเดือนแรก ภาพรวมยังทำได้ดีว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งอยากให้หน่วยราชการรักษาค่าเฉลี่ยการเบิกจ่ายนี้ให้ได้ และกระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือจากส่วนราชการต่างๆ ในเรื่องการเบิกจ่าย โดยหลังจากนี้ทางภาครัฐจะมีการติดตามการเบิกจ่ายเชิงรุก ให้รายงานผลการเบิกจ่ายให้ทราบทุกสัปดาห์

ส่วนอีกเรื่องเป็นการเชื่อมโยงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะต้องใช้ข้อมูลของส่วนราชการต่างๆมาเชื่อมโยง เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนการเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และของขวัญปีใหม่ ยังไม่มีการพูดคุยในการประชุมครั้งนี้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น มีทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งระยะกลางและยาว ส่วนใหญ่เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการลงทุนจากภาคเอกชน ซึ่งมาตรการเหล่านั้น เราต้องเดินหน้า เพื่อให้ต้นทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนโลจิสติกส์ของภาคเอกชน อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนนั้น อยู่ระหว่างคลัง ธปท. และธนาคารพาณิชย์หารือกัน ส่วนธนาคารพาณิชย์ได้ยื่นข้อเสนอลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนเอฟไอดีเอฟ เพื่อชดเชยกับการยกเว้นดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ เป็นหนึ่งในข้อเสนอ ซึ่งกระทรวงการคลังก็รับได้ ถ้าเป็นการทำเพื่อประชาชน

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

ไทยพร้อมเปิดนำเข้าข้าวโพด กากถั่ว ผลไม้ เครื่องในจากสหรัฐ แต่ยันไม่นำเข้าเนื้อหมู

04-18

‘บางจาก’ รอคุยทิศทางลงทุนธุรกิจจากกลุ่มอัลฟ่าผู้ถือหุ้นรายใหม่ เชื่อแนวโน้มดี

04-18

สลากดิจิทัลงวดนี้ ถูกแบบกระจาย 24 คน แตก 162 ล้าน รางวัลที่ 1 ออก 266227

04-18

‘เนสกาแฟ’ร่อนแถลงการณ์ยังปักหลักลงทุนในไทย

04-18

อินฟอร์มาฯ เปิดประตูเครื่องประดับไทยสู่โอกาสในธุรกิจระดับโลก

04-18

ฉุดไม่อยู่จริงๆ 3 เดือนครึ่ง ‘ทองคำ’ พุ่งขึ้น 9,550 บาท

04-18

เมืองไทยฯ ดึง ณเดชน์ พรีเซ็นเตอร์ เปิดตัวแคมเปญ “ShieldLife”ช่วยรับมือความเสี่ยง

04-18

เปิดประวัติ ‘อัลฟ่าฯ’ ท่ามกลางกระแสนั่งแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ ‘บางจาก’

04-18

ทองคำขึ้นรายวัน ส่งสัญญาณเตือนภัยเรื่องอะไร??

04-18

พิชัย พร้อมเจรจาซื้อพลังงานสหรัฐ แอลเอ็นจี-อีเทน ปีละ 4 หมื่นล้าน-เครื่องบิน 100 ลำ

04-18

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap