คนไทยค้างจ่ายหนี้ จนเกิด NPL กว่า 5.5 แสนล้าน จับตากลุ่ม SME-ครัวเรือน

2024-11-26 HaiPress

แบงก์ชาติ เปิดข้อมูลหนี้คนไทย ค้างจ่ายจนเป็นหนี้เสีย NPL ฉ่ำ พุ่งแตะกว่า 5.53 แสนล้านบาท เฉียด 3% ของสินเชื่อรวม จับตาการจ่ายหนี้คืนของ SME และครัวเรือนบางกลุ่ม

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ สรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 2567 โดยระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง โดยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 3 ปี 2567 หดตัวที่ 2.0% จากระยะเดียวกันปีก่อน

โดยหลักจากการชำระคืนหนี้ที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการจ่ายคืนหนี้ของภาครัฐและธุรกิจขนาดใหญ่ แม้การให้สินเชื่อใหม่ยังมีต่อเนื่องในธุรกิจขนาดใหญ่ในภาคบริการ อสังหาริมทรัพย์ พาณิชย์ และสินเชื่ออุปโภคบริโภคประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่มีแนวโน้มชะลอลง ขณะที่สินเชื่อในภาคธุรกิจที่เผชิญปัญหาความสามารถในการแข่งขันยังคงหดตัว โดยเฉพาะในกลุ่มปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์

ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (non-performing loan: NPL หรือ stage 3) ไตรมาส 3 ปี 2567 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.534 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.97% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานสินเชื่อที่ปรับลดลง จากทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่ออุปโภคบริโภค โดยธนาคารพาณิชย์ยังบริหารจัดการคุณภาพหนี้และให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับสัดส่วนสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (significant increase in credit risk: SICR หรือ stage 2) อยู่ที่ 6.86% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการจัดชั้นเชิงคุณภาพของธนาคารพาณิชย์ โดยธุรกิจยังสามารถชำระคืนหนี้ได้ตามเงื่อนไขสัญญา และสินเชื่อที่อยู่อาศัย

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 ปรับดีขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการวัดมูลค่าตราสารทางการเงิน ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง ทั้งนี้ หากเทียบไตรมาสก่อน กำไรสุทธิปรับลดลง โดยหลักจากการลดลงของรายได้เงินปันผลตามปัจจัยฤดูกาล แม้ค่าใช้จ่ายสำรองปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจ SMEs และครัวเรือนบางกลุ่มที่รายได้ฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง รวมถึงธุรกิจในกลุ่มที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างและความสามารถในการแข่งขันที่ปรับลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ NPL ยังมีแนวโน้มทยอยปรับเพิ่มขึ้น

แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้และไม่เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด (NPL cliff) โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 2 ปี 2567 ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลงสอดคล้องกับกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ (debt deleveraging) ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ปรับลดลงตามการหดตัวของสินเชื่อและตราสารหนี้ ด้านความสามารถในการทำกำไรโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะในภาคการผลิต

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

CKPower คว้าเรตติ้งสูงสุด SET ESG Ratings ปี 2567 ระดับ “AAA”

12-20

ราคาทองวันนี้ 19 ธ.ค.67 ร่วง 200 บาท

12-20

ก.ล.ต.สั่งCPAXT ชี้แจงข้อมูลร่วมลงทุนโครงการ The Happitat

12-20

ดัชนีวันนี้ปิดลบ 21.42 จุด เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยน้อยลง

12-20

DAD ดันศูนย์ราชการ ขึ้นแท่นเมืองต้นแบบสีเขียว จัดงบ 32 ล้าน สร้างอาคารเก็บพลังงาน

12-20

“เบทาโกร” คว้าเรตติ้งระดับสูงสุด “AAA” หุ้นยั่งยืน SET ESG RATING 2567 เป็นปีแรก

12-20

พช.จัดโปรส่งท้ายปี ขนสินค้าโอทอปลดครั้งใหญ่

12-20

คริสตัล โฮม ผนึก AXOR ลุยขยายลูกค้าไฮเอนด์

12-20

นายกฯห่วงมันราคาร่วง ‘พิชัย’ เร่งมือหาตลาดจีน 1 ล้านตัน-เพิ่มใช้ในประเทศ 5 แสนตัน

12-20

ซื้ออะไรได้บ้าง เปิดกล่องของขวัญปีใหม่ Easy e-Receipt หักภาษี 5 หมื่น เข้า ครม.สัปดาห์หน้า

12-20

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap