2025-01-03 IDOPRESS
"หมอมิ้ง" เผยรัฐบาลกดคันเร่งเครื่องยนต์กระตุ้นลงทุน 5 อุตฯ แห่งอนาคตเต็มที่ มั่นใจไทยเป็นศูนย์กลางลงทุนแน่นอน ขณะที่นายกฯ สั่งลดขั้นตอน พร้อมเพิ่มศักยภาพให้นักลงทุนได้ง่ายและมีแรงจูงใจมากขึ้น
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสรุปถึงนโยบายในปีใหม่นี้ ที่รัฐบาลตั้งใจดำเนินการให้เป็นรูปธรรม เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวและเดินหน้าเพิ่มจีดีพีให้สูงขึ้นกว่า 3% โดยเฉพาะแผนดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศของในปีใหม่นี้ที่วางเป้าหมายที่กดคันเร่งเครื่องยนต์เศรษฐกิจ เดินหน้าเต็มที่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยตั้งเป้า 5 กลุ่มธุรกิจการลงทุนที่สำคัญคือ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ได้แก่ การลงทุนด้านศูนย์ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์เอไอขนาดใหญ่ ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบเกษตรแม่นยำ และอุตสาหกรรมอาหารที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
“การลงทุนของภาครัฐในปีนี้จะมีมูค่าสูงกว่า 7-8 แสนล้านบาท โดยมี 3 กระทรวงหลักที่เกี่ยวข้อง และต้องให้การสนับสนุนนักลงทุนคือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอีกหลายกระทรวงที่พร้อมเดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาลในการปรับปรุง แก้ไขกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย”
สำหรับการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต นั้น นอกจากนโยบายที่รัฐบาลจะตั้งเป้าดึงดูดการลงทุนในห่วงโซ่อุปทาน หรือการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในด้าน ดาต้า เซ็นเตอร์ จากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มาลงทุนในไทยแล้ว เช่น AWS,Google,Microsoft,Huawei ไปจนถึงการพัฒนาระบบนิเวศ ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นฐานการผลิต AI และจะเป็นอนาคตของโลก ยังจะกระตุ้นการลงทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการวิจัยและพัฒนา อีกด้วย
“รัฐบาลจะปรับปรุง แก้ไข และออกกฎระเบียบ เพื่ออำนวยความสะดวก รองรับการลงทุนทั้งจากต่างประเทศและภายในประเทศ โดยนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ให้ความสำคัญกับอุปสรรคที่จะต้องเร่งขจัดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบหรือกฎหมายที่เก่าล้าสมัยไม่ทันต่อสถานการณ์ในโลกปัจจุบันของการลงทุน หรือประกอบธุรกิจ ซึ่งนโยบายของรัฐบาล มีเป้าหมายที่จะอำนวยความสะดวก และสร้างแรงขับเคลื่อนการลงทุนและเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ อาทิ การดำเนินการออกใบอนุญาตต่างๆ ที่มีขั้นตอนน้อยลงและง่ายขึ้น รวมถึงการลดระยะเวลาในการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ให้รวดเร็วและมีสิทธิประโยชน์ที่ดึงดูดนักลงทุนให้มากขึ้น เป็นต้น”
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลางทางด้านโลจิสติกส์ การค้าและการแลกเปลี่ยน และการเชื่อมโยงในทุกๆ ด้านของภูมิภาค ทั้งนี้รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายในการรักษาจุดยืนของการไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ และมุ่งมั่นที่จะเป็น “ผู้ส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคั่งร่วมกัน” ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นพื้นที่ของโอกาส ที่ดึงดูดแรงงานทักษะสูง ผู้ประกอบการและนักลงทุนกลุ่มเป้าหมายเข้ามาเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย
นายจิรายุ กล่าวว่า ปีใหม่นี้รัฐบาลจะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้กับประชาชนในประเทศ พร้อมกำหนดนโยบายต่างๆ ในการเตรียมรับมือกับความท้าทายและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญทางเศรษฐกิจของไทยอย่างการท่องเที่ยว คาดการณ์ว่าจะกลับมาฟื้นตัว สร้างรายได้ให้กับประเทศด้วยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ จะส่งเสริมให้การท่องเที่ยวไทยเที่ยวได้ทั้งปี ไม่มีโลว์ซีซั่น โดยมั่นใจว่ามูลค่าจะสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
01-03
01-03
01-03
01-03
01-03
01-03
01-03
01-03
01-03
01-03