เปิดไทม์ไลน์ ชื่อแคนดิเดต ประวัติ คุณสมบัติชิงเก้าอี้ 'ผู้ว่าการแบงก์ชาติ' คนใหม่ แทน 'ดร.เศรษฐพุฒิ' ครบวาระเดือน ก.ย.68 นี้

กระบวนการสรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อมาทดแทน ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการแบงก์ชาติคนปัจจุบันที่กำลังจะครบวาระ 5 ปี ในเดือนกันยายน 2568 นี้

จากกระแสข่าวบุคคลที่คาดว่าจะเข้าสมัครเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มีดังนี้

1.ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด อายุ 50 ปี

ดร.สุทธาภา เคยดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริหารสายงาน Economic Intelligence Center และดูแลสายงานวิเคราะห์ความเสี่ยง (risk analytics) มีประสบการณ์ทำงาน ทั้งองค์กรระหว่างประเทศและภาคเอกชนชั้นนำ อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเทศสหรัฐอเมริกา,สายงานบริหารความเสี่ยงของกลุ่มการเงิน ING ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง นอกจากงานทางด้านการเงินการธนาคารแล้ว ดร.สุทธาภา เป็นอนุกรรมาธิการด้านการเงิน การธนาคาร สถาบันการเงินและตลาดทุน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

2.ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อายุ 56 ปี

ดร.กอบศักดิ์ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาประเทศ นโยบายเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการเงิน และตลาดทุน เคยทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ รวมทั้งปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ด้วยอีกตำแหน่ง

3.ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ อายุ 53 ปี

ดร.เอกนิติ เป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการคลัง และเป็นชื่อคนแรกๆ ที่มีกระแสข่าวว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาติ ถือเป็นบุคคลที่เป็นลูกหม้อกระทรวงการคลัง และเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง ทั้งอธิบดีกรมสรรพสามิต อธิบดีกรมสรรพากร และประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรรมการบริหารความเสี่ยง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เป็นต้น

4.ดร.ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต อายุ 53 ปี

ดร.ปิติ เป็นผู้ที่มีความรู้ทางด้านการเงินการธนาคาร มีประสบการณ์ในการบริหารงานหลายด้านทั้งธุรกิจการเงิน พลังงาน รวมทั้งช่วยการบริหารงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญมีบทบาทในการบริหารความเสี่ยง กำกับดูแล และพัฒนาระบบการเงินในหลายองค์กร

5.ดร.สันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และที่ปรึกษาด้าน Future Economy ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) อายุ 43 ปี

ดร.สันติธาร ถือว่าเป็นนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ มีความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

ดร.สันติธาร มีประสบการณ์ทำงานที่หลากหลายสาขา เคยดำรงตำแหน่งประธานทีมเศรษฐกิจ (Group Chief Economist) และกรรมการผู้จัดการของ Sea Group บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเป็นบริษัทแม่ของ Garena,Shopee และ Seamoney เคยเป็นผู้บริหารสูงสุดของทีมเศรษฐกิจเอเชียที่ธนาคาร Credit Suisse มีหน้าที่วิเคราะห์พยากรณ์เศรษฐกิจและให้คำแนะนำการลงทุนใน 10 เศรษฐกิจในเอเชีย เป็นนักเศรษฐศาสตร์ผู้เดียวในเอเชียที่ชนะรางวัลพยากรณ์เศรษฐกิจยอดเยี่ยมระดับโลกของ Consensus Economics ติดกันสามปีซ้อน

6.ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 57 ปี

ดร.รุ่ง ทำงานที่ ธปท. มานานกว่า 20 ปี เคยเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน และผู้ช่วยผู้ว่าการ สายเสถียรภาพการเงินและยุทธศาสตร์องค์กร ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญในการวางกลยุทธ์ของ ธปท. ผ่านมาตรการตลาดการเงินและการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจการเงินทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ

นอกจากนี้ ดร.รุ่ง มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อน “ภูมิทัศน์ภาคการเงินไทย” ซึ่งมุ่งสร้างภูมิทัศน์ทางการเงินใหม่สำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืนของไทย และนำไปสู่การพัฒนาโครงการ Your Data การจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) รวมถึงการยกระดับกลไกการค้ำประกันเครดิต (NaCGA) ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของไทย อีกทั้งมีส่วนร่วมผลักดัน “แนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน” และเคยนั่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Global Business and Strategy บมจ. ธนาคารกรุงไทยในช่วงปี 2560-2562

ไทม์ไลน์สรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่

เดือน มีนาคม 2568

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกจำนวน 7 คน โดยมีองค์ประกอบเช่นเดียวกับคณะกรรมการสรรหาประธาน และกรรมการ ธปท. ซึ่งประกอบด้วยบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยงานภาครัฐ เช่น ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและการเงิน แต่งตั้งบุคคลทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการคัดเลือก

เดือน เมษายน – พฤษภาคม 2568

คณะกรรมการคัดเลือกประชุมและประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้ว่าการ ธปท. การประกาศรับสมัครจะดำเนินการผ่านกระทรวงการคลัง ธปท. สื่อสิ่งพิมพ์ และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปจะเปิดรับสมัครเป็นระยะเวลาประมาณ 14 วัน

เดือน พฤษภาคม – มิถุนายน 2568

เมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร เลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร

เดือน มิถุนายน 2568

คณะกรรมการคัดเลือกจะคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมไม่น้อยกว่า 2 และไม่เกิน 3 รายชื่อ เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่างน้อย 90 วันก่อนครบวาระของผู้ว่าการ ธปท. อาจมีการกำหนดให้ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายแสดงวิสัยทัศน์เพิ่มเติม

เดือน มิถุนายน – สิงหาคม 2568

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจาก ครม. เห็นชอบ รายชื่อจะถูกนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

คุณสมบัติทั่วไปผู้สมัครผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

สัญชาติไทยอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเสนอชื่อมีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงตำแหน่งสามารถปฏิบัติงานเต็มเวลาให้แก่ ธปท.สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปจากสถาบันที่สำนักงาน ก.พ. รับรองไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดมีความรู้ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจมหภาคและภาวะเศรษฐกิจการเงินโลกมีความเชี่ยวชาญด้านนโยบายการเงิน การกำกับดูแลสถาบันการเงิน และระบบการชำระเงินมีประสบการณ์บริหารองค์กรในระดับสูง ตามเกณฑ์ที่กำหนด