เศรษฐกิจไทยปี 68 เจอความเสี่ยง ความท้าทาย คาดจีดีพีขยายตัว 2.7%

2025-03-04 HaiPress

เศรษฐกิจไทยปี 68 เจอความเสี่ยง-ความท้าทายหลายเรื่อง สงครามการค้า สินค้านำเข้าจากจีน สภาพภูมิอากาศ และปัญหาเชิงโครงสร้าง คาดจีดีพีขยายตัว 2.7% ปีนี้

วันที่ 3 มี.ค. น.ส.พิมพ์นารา หิรัญกสิ หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 68 เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วยแรงสนับสนุนจากหลายปัจจัย แต่เจอความเสี่ยงและความท้าทาย 4 เรื่อง ทั้งความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์,การหลั่งไหลของสินค้านำเข้าจากจีน,การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง และปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ภาวะสังคมสูงอายุ หนี้ครัวเรือนสูง และความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง

สำหรับเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตจากปัจจัยบวกชั่วคราว คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 2.7% ในปี 68 ปรับดีขึ้นเล็กน้อยจาก 2.5% ในปี 67 จากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่องแม้จะยังไม่กลับสู่ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 35.5 ล้านคนในปี 67 ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น การปรับตัวของอุปทานทั้งจำนวนเที่ยวบินและการขยายเส้นทางการบินเพิ่มเติม รวมทั้งมาตรการวีซ่าฟรี

ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นและกลับมาเป็นปกติหลังจากมีการเบิกจ่ายล่าช้าในปีงบประมาณ 67 ประกอบกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 68 ที่เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ ก่อน 4.2% และเป็นงบขาดดุลที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.5% ของจีดีพี,การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มพลิกกลับมาขยายตัวที่ 2.6% หลังจากที่หดตัว 1.6% ในปี 67

อย่างไรก็ตาม การส่งออกมีแนวโน้มเติบโตอย่างจำกัดเนื่องจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น จากการปรับเปลี่ยนนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคการผลิตในประเทศที่มีผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย ส่วนการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอลงในปี 68 แม้คาดว่าจะขยายตัวใกล้เคียงกับการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม ปัจจัยบวกจากการปรับดีขึ้นต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวที่หนุนการจ้างงานในภาคบริการ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศผ่านโครงการอีซี่ อี-รีซีท ในช่วงต้นปี รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ

ขณะที่การเติบโตของการบริโภคภาคเอกชนยังคงถูกจำกัด เนื่องจากรายได้ที่แท้จริงของแรงงานยังฟื้นตัวช้า ประกอบกับมูลค่าสินทรัพย์ของครัวเรือนที่ลดลงในกลุ่มรายได้ปานกลางลงมา ด้านรายได้เกษตรกรมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปี 67 ผลจากปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก นอกจากนี้ หนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ภาครัฐจะมีมาตรการบรรเทาภาระหนี้แก่กลุ่มเปราะบาง

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

รีบเลย 10 เลขเด็ดมาแรง งวดวันที่ 1 ส.ค.68 เลข 728 มาแรง ลุ้นรวยเป็นมหาเศรษฐีใหม่

08-01

เอ็น.ซี.ซี. – ส.อ.ท.ระดมโรงงานผลิตแบรนด์ เปิดโอกาสทองให้ผู้อยากเริ่มต้นธุรกิจ

08-01

ธ.ก.ส.ประกาศยกหนี้ให้ครอบครัว ทหาร-ตชด. ที่เสียชีวิตระหว่างสู้รบกัมพูชา

08-01

หอการค้าชมทีมไทยแลนด์เจรจาเข้มจนได้ 19% ขอให้ลุยมาตรการต่อรับมือภาษีใหม่!!

08-01

ราคาทองวันนี้ 1 ส.ค. ร่วง 50 บาท 

08-01

‘บราโว บีเคเค’ ให้เช่าพื้นที่ฟรี 1 ปี มุ่งเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์คนเมืองเต็มรูปแบบ

08-01

ครึ่งปี คนไทยแห่ทำประกันสุขภาพ 6.1 หมื่นล้าน ห่วงค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นปีละ 15%

08-01

‘พิชัย’ ชี้สหรัฐเก็บภาษีไทย 19% สะท้อนถึงมิตรภาพแน่นแฟ้น ช่วยให้ไทยยังคงแข่งขันได้ในเวทีโลก

08-01

ด่วน! กกพ.เคาะแล้วค่าไฟงวดใหม่ 3.94 บาท ถึงสิ้นปี 68 ลดจากปัจจุบัน

08-01

พีเอ็มจี ยกทัพธุรกิจ-แฟรนไชส์หาคู่ค้าสู้วิกฤต

08-01

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap