กกร.กังวลหนัก ทรัมป์เอฟเฟกต์ ดันราคาสินค้าพุ่ง 6-8% ห่วงเศรษฐกิจอ่อนแรง

2025-03-06 IDOPRESS

กกร. กังวลหนักทรัมป์เอฟเฟกต์ ดันราคาสินค้าพุ่ง 6-8% ห่วงเศรษฐกิจไทยอ่อนแรง จี้รัฐเกาะติดเอกชนแก้เกมทันท่วงที

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้า และสมาคมธนาคารไทย ว่า กกร. แสดงความกังวลจากกรณีที่สหรัฐ มีแนวโน้มจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าทั้งแบบเจาะจง และแบบครอบคลุมวงกว้างเพิ่มเติม

โดยได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมและเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าจากสินค้ากลุ่มรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และยา รวมทั้งมีแผนเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ กับประเทศต่าง ๆ ในวงกว้างสำหรับสินค้าที่สหรัฐเสียเปรียบจากการถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูง อาจทำให้สินค้าไทยมีต้นทุนภาษีเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6-8% โดยสงครามการค้า ได้กดดันเศรษฐกิจสหรัฐจากการบริโภคและภาคบริการที่ชะลอลง ส่วนภาคอุตสาหกรรมยุโรปและญี่ปุ่นต่างหดตัวต่อเนื่อง

“ยอมรับว่า เรามีความกังวลการดำเนินนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทย โดยล่าสุดสหรัฐ มีการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 10% เป็น 25% และยกเลิกข้อยกเว้นรายประเทศ ข้อตกลงตามโควตา รวมทั้งยกเลิกการยกเว้นภาษีแบบรายสินค้า จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 68 ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่มีการส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมไปยังสหรัฐ จะต้องแบกรับภาระภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ กกร. เสนอให้ภาครัฐเร่งมีการบูรณาการข้อมูลการค้าในทุกมิติระหว่างไทยและสหรัฐ เช่น ดุลการค้า ดุลภาคบริการและดิจิทัล ดุลภาคขนส่ง ดุลภาคการศึกษา เพื่อนำมาวิเคราะห์กำหนดท่าทีร่วมกับภาคเอกชน ในการเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศ รวมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์ในการรับมือนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ และผลกระทบจากสงครามการค้า เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการและสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ ลดการพึ่งพาตลาดเดิม

ส่วนภาวะเศรษฐกิจไทย ส่งสัญญาณอ่อนแรงลง สะท้อนผ่านอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 67 ที่ขยายตัวเพียง 3.2% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 4% ส่งผลให้ทั้งปี 67 จีดีพีขยายตัวเพียง 2.5% ต่ำกว่าระดับศักยภาพ เนื่องจากการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่หดตัว สวนทางกับการส่งออกที่ยังขยายตัวดี เป็นเพราะปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันรุนแรงจากสินค้าต่างประเทศในหลายอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น รถยนต์ เคมีภัณฑ์ ยางและพลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุก่อสร้าง

“เศรษฐกิจไทยปี 68 เผชิญความเสี่ยงสูง สำนักวิจัยในต่างประเทศปรับลดประมาณการจีดีพีไทย ลงเหลือ 2.6% จากเดิมอยู่ที่ 2.7% ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายการค้า และแรงกดดันต่อภาคการผลิตที่จะยังมีต่อเนื่อง ส่วนอุปสงค์ภายในประเทศยังเปราะบาง สอดคล้องกับมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทยที่นำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยมาตรการเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบและประคองการเติบโตทั้งในระยะสั้นและระยะยาวมีความจำเป็น โดยเฉพาะการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าโลก การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ การลดต้นทุนผู้ประกอบการ และการยกระดับภาคการผลิตให้แข่งขันได้ในระยะยาว”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 เฟส 4 เฟส 5 เช็กเงื่อนไข ใครได้บ้าง

04-08

ไทยแย้มกลยุทธ์รับมือทรัมป์ เล็งนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐ เปิดสินเชื่อเอกชน 3 พันล้านบาท เยียวยาเอกชน

04-08

สรุป Timeline มาตรการทรัมป์ป่วนโลก นับตั้งแต่รับตำแหน่ง 20 ม.ค. ออกมาตรการอะไรแล้วบ้าง

04-08

หวั่นสงครามการค้าเดือดจัด แมงเม่าเทขายหุ้นทันที 46.85 จุด

04-08

เงินบาทอ่อนค่า 34.71 บาท ทำสถิติในรอบกว่า 2 เดือนครึ่ง กังวลสหรัฐขึ้นภาษี

04-08

เฝ้าระวัง! เปิดรายละเอียด 49 ลิสต์สินค้าไทย เสี่ยงถูกสวมสิทธิส่งออกไปสหรัฐ

04-08

“ดีอี” ชงครม. แก้พ.ร.ก.ไซเบอร์ แก้ปัญหามิจฉาชีพตุ๋นเงิน ปชช.

04-08

ราคาทองวันนี้ 8 เม.ย.68 ลดลง 550 บาท

04-08

กองทุนหมู่บ้านฯ เตรียมของบกลางเพิ่ม 3 พันล้านบาท จ่อคิกออฟโครงการเอสเอ็มแอล 21 เม.ย. นี้

04-08

จับตาโลกป่วน! สหรัฐขึ้นภาษีนำเข้า กระทบรุนแรงแค่ไหน ทางรอดคืออะไร

04-08

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap