อดีตรมว.คลัง "สุชาติ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช" มองการขึ้นภาษีนำเข้าสูงมากของสหรัฐ​ เป็นการทำลายตัวเอง ทำให้เศรษฐกิจ​โลกเติบ​โตลดลง ส่วนไทยควรหาทางเจรจา ​โดยส่งผู้ใหญ่ที่มีบารมีอย่าง "ทักษิณ" ไปเจรจา​กับ "ทรัมป์" โดยตรง

เมื่อวันที่ 10 เม.ย.68 ศ.ดร.สุชาติ​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีต​รมว.คลัง กล่าวถึงประเด็นที่สังคมโลกให้ความสนใจกรณีผู้นำของสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสูงมากกับประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐ ว่า​ 1.การขึ้นภาษีนำเข้าที่สูงมากของสหรัฐ​ จะเป็นการเก็บภาษีจากคนอเมริกัน​เอง​เป็นส่วนใหญ่ มิใช่เก็บจากผู้ผลิตในต่างประเทศ สหรัฐ​​ จะเกิดเงินเฟ้อ​ ของแพง โลกจะเกิดภาวะเศรษฐกิจ​ตกต่ำอุตสาหกรรม​สหรัฐ​ จะแข่งขันไม่ได้​ ในที่สุดสหรัฐ​ จะกลายเป็นประเทศที่พัฒนา​ช้าลง

2.ประเทศเล็กๆ​ ไม่ควรเก็บภาษีตอบโต้​ เพราะจะทำให้ประชาชนซื้อของแพงไปด้วย​ เมื่อขายของให้สหรัฐยากขึ้น​ ก็ต้องหันมาขายของระหว่างกันเพิ่มขึ้น​

3.เว้นแต่ประเทศใหญ่ๆ​ เช่น จีน​ และยุโรป​ สามารถ​ตอบโต้ได้​ เพื่อสั่งสอนบทเรียน​ให้สหรัฐ​ และแสดงให้ประชาชนของตนเห็นว่า​ ไม่ได้เป็นลูกไล่ของอเมริกา

4.การทำลายตัวเองของสหรัฐ​ ครั้งนี้​ เกิดจากความโง่​เขลา ​เข้าใจผิดของที่ปรึกษา​ฯ และเกิดจากความบ้าระห่ำ​ของประธานาธิบดี​เอง คล้ายกับเล่นโป๊กเกอร์​ โดยพยายามข่มขู่​ทั้งที่ไม่มีไพ่อยู่ในมือ เมื่อ​ตั้งใจหลอกคนอื่น (Bluff)​ ผู้เล่นเล็กๆ​ ก็ต้องหลบ​เพราะหน้าตักไม่พอสู้​ แต่มีผู้เล่นใหญ่ เช่น จีน​ตั้งใจสู้​ ในอีกไม่นานสหรัฐ​​ คงต้องถอย​ เพราะประชาชนสหรัฐ​เอง​ จำนวนมากไม่เอานโยบายนี้

5.สำหรับประเทศ​ไทย​ ซึ่งมีขนาดเล็กไปสู้รบขึ้นภาษีตอบโต้​ ก็จะเสียหายเปล่า​ๆ​ จะทำ​ให้ประชาชนต้องใช้ของแพง​ ดังนั้นไทยควรหาทางเจรจา​ โดยส่งผู้ใหญ่ที่มีบารมีมากๆ​ เป็นตัว​แทนนายกรัฐมนตรี​ เช่น​ อดีตนายกฯ​ ทักษิณ​ ชิน​วัต​ร ไปเจรจา​กับ​ประธาน​า​ธิบดีทรัมป์ โดยตรง เช่น การลดภาษีและมาตรการ​มิใช่ภาษีระหว่างกัน​ การซื้อสินค้าสหรัฐมากขึ้น​

6.ในระยะสั้นนี้​ เราจะขายของไปสหรัฐได้น้อยลง​ ทำให้ต้องลดการผลิต​ ลดการจ้างงาน​ เราจึงอาจใช้มาตรการ​ทำให้ค่าเงินบาท​ที่แข็งเกินไป​ ให้อ่อนลง​ เพื่อลดผล​กระทบของภาษีสหรัฐ และเพิ่มการค้าขาย​กับประเทศอื่นๆ ได้ดีขึ้น​

7.ในกรณีระบบเศรษฐกิจ​โลก​ หากประเทศที่เหลืออยู่​ สามารถร่วมพูดคุย​กันได้​ แล้วมาร่วมลดภาษีนำเข้าระหว่างกัน​ จะช่วยลดผลกระทบจากนโยบาย​ของสหรัฐ​ลงได้ และประเทศเหล่านี้​ จะเป็นผู้ผลิตที่มีประ​สิทธิภาพมากขึ้น​ หากเปิดการค้าเสรีระหว่างกันมากขึ้น​ โดยแบ่งงาน​การผลิต​ตามความถนัด​ของ​แต่ละประเทศ

8.ประเทศไทยควรใช้โอกาสนี้ ซื้อสินค้านำเข้าที่ถูกลงจากทั่วโลก​ (เพราะส่งไปขายในสหรัฐได้น้อยลง)​ มาผลิตแล้วขายไป​ประเทศ​อื่นๆ​ นอกจากสหรัฐ​​ พร้อมกับไปเสนอสหรัฐ​ ว่าเราจะเก็บภาษีนำเข้าทุกชนิด​จากสหรัฐเป็น​ 0% เพื่อต่อรอง​ลดผลกระทบ​ เรายังอาจลดภาษีนำเข้าให้ทุกประ​เทศเป็น​ 0% ในระยะยาวด้วย​