‘เนสกาแฟ’ร่อนแถลงการณ์ยังปักหลักลงทุนในไทย

2025-04-18 IDOPRESS

'เนสกาแฟ' ร่อนแถลงการณ์ ยังปักหลักลงทุนในไทยต่อเนื่อง ลุ้น! พรุ่งนี้ศาลแพ่งมีนบุรีนัดไต่สวนฉุกเฉิน

รายงานข่าวจาก บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัดหรือ เนสกาแฟ ออกแถลงการณ์ว่า แบรนด์กาแฟจากเนสท์เล่ที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งจากผู้บริโภคชาวไทย ได้มุ่งมั่นสร้างประโยชน์แก่เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับซื้อเมล็ดกาแฟดิบจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟไทยมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี โดยล่าสุดเมื่อต้นปี พ.ศ. 2568 เนสท์เล่ ได้รับซื้อเมล็ดกาแฟโรบัสต้าจากเกษตรกรไทยเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533-2567 เนสท์เล่ ได้มีสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด (QCP) ให้เป็นผู้ผลิตเนสกาแฟ ในประเทศไทย โดยสูตรกาแฟและเทคโนโลยีการผลิตเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของเนสท์เล่ และทีมงานในสายการผลิตและการบริหารงานทั้งหมดก็เป็นทีมงานของเนสท์เล่

ภายหลังการสิ้นสุดสัญญาระหว่างเนสท์เล่ กับ QCP ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เนสท์เล่ได้ดำเนินการเพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เพื่อให้ผู้บริโภคไทย ยังคงสามารถดื่มด่ำกับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟทุกประเภทได้อย่างเต็มที่ ด้วยรสชาติและคุณภาพระดับสูงเช่นเดิม โดยเนสท์เล่ได้มีการว่าจ้างบริษัทในประเทศไทยให้ช่วยผลิตผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ พร้อมทั้งนำเข้าผลิตภัณฑ์บางส่วนจากประเทศในแถบอาเซียนเป็นการชั่วคราว เนื่องจากกำลังผลิตภายในประเทศไม่เพียงพอ ทั้งนี้ เนสท์เล่ ยืนยันว่าจะลงทุนเพื่อผลิตเนสกาแฟในประเทศไทยต่อไป และในขณะนี้ เนสท์เล่ กำลังเตรียมการเพื่อกลับมาดำเนินการผลิตเนสกาแฟในประเทศ หลังจากที่ได้รับคำสั่งจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โดยในระหว่างที่เรากำลังเตรียมการเพื่อผลิตเนสกาแฟในประเทศไทย เราจะยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนเกษตรกรไทย ด้วยการรับซื้อวัตถุดิบในการผลิตจากเกษตรกรไทยให้มากที่สุด

ก่อนหน้านี้ เนสท์เล่ได้รับคำตัดสินจากศาลอนุญาโตตุลาการสากล ว่าเนสท์เล่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาการร่วมทุนอย่างครบถ้วน และการสิ้นสุดสัญญากับบริษัท QCP เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ถูกต้องและมีผลสมบูรณ์ทางกฎหมาย แต่ผู้ถือหุ้นของบริษัท QCP คือ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ และครอบครัว กลับยื่นขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากศาลแพ่งมีนบุรี และต่อมาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ทป 58/2568 มีคำสั่งว่า บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในอันที่จะใช้เครื่องหมายการค้า “Nescafé” ในประเทศไทย ซึ่งมีผลให้เนสท์เล่ สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจเนสกาแฟในประเทศได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568

ทั้งนี้ เนสท์เล่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ประกอบการรายย่อย คู่ค้าซัพพลายเออร์ ผู้บริโภค และเกษตรกรที่เราทำงานด้วยอย่างใกล้ชิด จะไม่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของผู้ถือหุ้นดังกล่าว

เนสท์เล่มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างปี พ.ศ. 2561-2567 เนสท์เล่ได้ลงทุนกว่า 22,800 ล้านบาทในประเทศไทย และเนสท์เล่จะยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อสร้างประโยชน์แก่ลูกค้า ผู้บริโภค พนักงานของเรา เกษตรกรที่ทำงานร่วมกับเรา ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจของเราต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 เมษายน 2568 นี้ ศาลแพ่งมีนบุรีนัดไต่สวนฉุกเฉินระหว่างเนสท์เล่ และฝ่ายโจทก์คือนายเฉลิมชัย มหากิจศิริเวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณาว่าจะเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

“กฟผ.-ภูฏาน” ต่อยอดความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด

07-01

ข่าวดี! กบง. ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 423 บาท/ถัง 15 กก. ถึงสิ้น ก.ย. 68

07-01

ราคาทองวันนี้ 28 มิ.ย. ร่วงอีก 200 บาท

07-01

“ประสิทธิ์”ผู้บริหาร CPF คว้ารางวัล “Asia’s Best CEO”

07-01

พาณิชย์ ชี้ 3 ปัจจัยกดดันข้าวไทย ส่งออก 5 เดือนแรกสาหัส ติดลบ 25%

07-01

ปลัดฯท่องเที่ยว ยันพื้นที่ภูเก็ตปลอดภัยหลังตำรวจเคลียร์พื้นที่ทุกจุดเรียบร้อย

07-01

รมว.อุตสาหกรรม ลุยฉะเชิงเทรา ฟันกากอุตฯกว่า 4.7 หมื่นตันซุกใต้ดิน

07-01

‘ฟาร์มเฮ้าส์‘ กางแผน 5 ปี รายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท

07-01

Jabs ส่งสินค้าใหม่บุกตลาดความงามครบวงจร

07-01

รมว.คลัง แจงแนวทางจ้าง Lobbyist ถกภาษีทรัมป์ แพงแต่จำเป็น ย้ำโปร่งใสแน่

07-01

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap