รัฐบาลยกระดับ “สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร” สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

2025-04-27 HaiPress

รัฐบาลยกระดับ “สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร” สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง กางแผนพัฒนาคมนาคม-สาธารณสุขเต็มรูปแบบ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยในปี 2568 รัฐบาลได้ผลักดันเป็นปีทองแห่งการท่องเที่ยว พร้อมปรับรูปแบบเมืองรองการท่องเที่ยวเป็นเมืองน่าเที่ยวทั่วไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3 จังหวัด คือ นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวและประเพณี เพื่อสร้างซอฟพาวเวอร์ให้ประเทศไทย ชูโรง 3 เทศกาลช่วงออกพรรษา สร้างความคึกคักและความต่อเนื่องด้วยประเพณีอันงดงาม ได้แก่ การยกระดับเทศกาล “ไหลเรือไฟ” สู่มหกรรมเรือไฟโลก นำเสนอคุณค่าวัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก และงานแห่ปราสาทผึ้ง สืบสานวัฒนธรรมที่โดดเด่นจากขี้ผึ้งธรรมชาติ รวมถึงเทศกาลแข่งเรือยาวโบราณ และประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา เชื่อมสายสัมพันธ์สองฝั่งโขง ไทย – สปป.ลาว นอกจากนั้น รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตด้านสาธารณสุขในภาคอีสานตอนบน โดยได้อนุมัติจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อผลิตแพทย์ที่มีคุณภาพ รองรับความต้องการของชุมชนในภาคอีสานตอนบน และแก้ปัญหาความขาดแคลนแพทย์ของชุมชน

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชนในกลุ่มจังหวัดสนุกให้เดินทางได้สะดวกครบทุกมิติ ทั้งทางอากาศ ทางถนน และทางราง ดังนี้

การคมนาคมทางอากาศ เพิ่มเส้นทางการบินมายังท่าอากาศยานนครพนม และสกลนคร เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานมุกดาหาร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568


การคมนาคมทางราง ดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่ – มุกดาหาร – นครพนม ระยะทาง 355 กม. ให้เปิดบริการได้ในปี 2571 ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 3.8 ล้านคนต่อปีและรองรับปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 700,000 ตันต่อปี รวมถึงมีโครงการรถไฟสายใหม่ในอนาคต 3 โครงการ คือ ช่วงอุดรธานี – สกลนคร – นครพนม ระยะทาง 247 กม. ช่วงหนองคาย – บึงกาฬ – นครพนม ระยะทาง 316 กม. ช่วงมุกดาหาร – อำนาจเจริญ – อุบลราชธานี ระยะทาง 173 กม. เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงระบบขนส่งทางรางของประชาชน นอกจากนั้น ยังมีดำเนินการก่อสร้างศูนย์การขนส่งสินค้าชายแดนจังหวัดนครพนม ให้เปิดบริการได้ในปี 2568 เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทาง R12 เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างไทย สปป.ลาว เวียดนามและจีนตอนใต้ พร้อมทั้งรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งระหว่างทางถนนและทางราง ให้เป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ที่ให้บริการแบบ One Stop Service


การคมนาคมทางถนน ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จหลายโครงการในจังหวัดนครพนม สกลนคร และมุกดาหาร รวมถึงมีโครงการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกกว่า 20 โครงการ เพื่อเสริมความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน

“รัฐบาลมีความตั้งใจในการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว คมนาคม และสาธารณสุข เพื่อสร้างความสะดวกสบาย คุณภาพชีวิตที่ดี สร้างรายได้ กระจายโอกาส และยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง” นายจิรายุ ระบุ

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

‘ฮิวแมนิก้า’ ผนึก พาณิชย์บัญชี มธ.เสริมศักยภาพแพทย์ไทย

08-04

ภาคธนาคารชื่นชมทีมเจรจาการค้าสหรัฐ สู่ความสำเร็จข้อตกลงภาษีทรัมป์ 19%

08-04

เอ็น.ซี.ซี. จัด BKKIP 2025 เปิดโอกาสให้เกิดการซื้อขายลิขสิทธิ์ 

08-04

‘เอกนัฏ’ ถกคลังงัดแผนอุ้มเอกชนกระทบภาษีทรัมป์ 19%

08-04

ดัชนีหุ้นไทยปิดลบ 24.02 จุด แมงเม่าเทขายทำกำไร

08-04

เริ่มแล้ว!! งานแฟร์ขายของถูกสถานีกลางบางซื่อ ก.อุตฯ-ก.คมนาคม ผนึก 19 ค่ายรถ-สหพัฒน์

08-04

นักเศรษฐศาสตร์ชี้โอกาสของไทย ภาษีทรัมป์ 19% แข่งขันได้ เปิดข้อควรระวัง

08-04

เสร็จแล้ว 1 อุโมงค์รถไฟฟ้า “สายม่วงใต้” เหลืออีก 3 สัญญา ปิดจ๊อบปี 69

08-04

ครม.นัดพิเศษใช้เวลา 1 เดือนสรุปภาษีสหรัฐ 0%

08-04

สลากดิจิทัลแตก 162 ล้าน รวยกระจาย 20 คน สูงสุดรับเละถึง 18 ล้านบาท

08-04

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap