คปภ.แจงอุบัติเหตุ มอเตอร์เวย์ 8 ศพ รถพ่วงทำประกัน 20 ล้าน

2025-04-27 IDOPRESS

คปภ. ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถยนต์และรถบรรทุกสิบล้อ จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

วันที่ 25 เมษายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกัภัย (สำนักงาน คปภ.) สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกหัวลากทะเบียน 73-1430 ชลบุรี หางพ่วงทะเบียน 71-3810 ชลบุรี ชนท้ายรถยนต์ นั่งส่วนบุคคลคันหมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี บริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 มุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บกว่า 3 ราย โดยได้ทำการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย และติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูล กรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ทุกบริษัทประกันภัยตรวจสอบการทำประกันภัยของรถยนต์ทุกคัน ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกราย

จากการลงพื้นที่ของสำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้นพบว่า รถยนต์นั่งคันหมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี คันที่ถูกชน ทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับไว้กับบริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) วงเงินความคุ้มครองสูงสุด 10,000,000 บาทต่อครั้ง

รถยนต์หัวลากคันหมายเลขทะเบียน 73-1430 ชลบุรี และรถยนต์หางพ่วงหมายเลขทะเบียน 71-3810 ชลบุรี มีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับไว้กับบริษัท เอ็มเอสไอจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รวม 2 กรมธรรม์ วงเงินความคุ้มครองสูงสุดรวม 2 กรมธรรม์ 20 ล้านบาท กรณีรถยนต์หัวลากและรถยนต์หางพ่วง เป็นฝ่ายผิด ผู้เสียหายจะได้รับ ค่าสินไหมทดแทนกรณีผู้บาดเจ็บจะมีความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดตามจริง ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน รวม 2 กรมธรรม์ 160,000 บาท สูญเสียอวัยวะ 200,000 – 500,000 บาทต่อคน รวม 2 กรมธรรม์ 400,000 – 1,000 บาท ทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน รวม 2 กรมธรรม์ 600,000 บาท ค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน รวม 2 กรมธรรม์ 200 บาท ต่อวัน รวมกันไม่เกิน 40 วัน ต่อคน โดยมีวงเงินสูงสุด 10 ล้านบาทต่อกรมธรรม์

หากรถยนต์นั่งเป็นฝ่ายผิด ผู้ขับขี่จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท และกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพจำนวน 35,000 บาท ส่วนผู้โดยสารจะได้รับ ความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดตามจริง ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน 200 บาท ต่อวัน

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่ารถยนต์หัวลากคันหมายเลขทะเบียน 73-1430 ชลบุรี ยังทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บริษัท แอลเอ็มจีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ระยะเวลาคุ้มครองวันที่ 5 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2569 วงเงินความคุ้มครองชีวิต ร่างกาย อนามัยบุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อราย คุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก 1,000 บาทต่อครั้งซึ่งจะต้องรอผลการสอบสวนของพนักงานสอบสวนว่าเป็นฝ่ายประมาทหรือไม่ ทั้งนี้ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน จึงยังไม่สามารถชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุละเมิดดังกล่าวได้จนกว่าผลคดีจะเป็นที่ยุติ แต่อย่างไรก็ตาม การประกันภัยภาคบังคับมีเจตนารมณ์ในการรักษาพยาบาลหรือการเยียวยาอย่างรวดเร็วตามหลักสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล

ค่าทดแทนและค่าปลงศพ สำหรับกรณีรถยนต์ชนกันโดยยังไม่มีฝ่ายใดยอมรับผิด และปรากฏว่ารถยนต์ทั้งสองฝ่ายมีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่กำหนดให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถยนต์คันที่มีผู้โดยสารนั่งมาแล้วบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะสำรองจ่าย ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้บาดเจ็บหรือทายาทผู้เสียชีวิตไปก่อนตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยของรถยนต์คันที่โดยสารมา

ดังนั้น เบื้องต้นทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิต 8 ราย จะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับด้วยหลักสำรองจ่าย โดยผู้ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี มีสิทธิได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพ จำนวน 35,000 บาท จากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ และผู้โดยสารที่เสียชีวิตมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ จำนวน 500,000 บาทต่อราย ส่วนผู้โดยสารที่บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับ บริษัทประกันภัยเพื่อรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลโดยตรงแล้ว

สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอร่วม ไว้อาลัยอย่างสุดซึ้ง พร้อมยืนยันให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ โดยขอประชาสัมพันธ์ถึง เจ้าของรถยนต์ทุกคนทำการตรวจสอบว่ารถยนต์ของตนว่ามีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ) แล้วหรือยัง ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สิทธิด้านประกันภัย สามารถติดต่อสายด่วน คปภ. โทร. 1186

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

‘นักวิชาการ มธ.’ เตือนอย่าให้ ‘หวยเกษียณ’ เป็นนโยบาย ‘พนัน’ แฝง ‘การออม’

04-27

ปตท.สผ. นำส่งรายได้ให้กับรัฐกว่า 6,800 ล้าน เสริมความมั่นคงทางพลังงาน

04-27

หุ้นอิเล็กฯหนุนดัชนีวันนี้บวก 12.14 จุด

04-27

3 ปัจจัยกระทบตลาดการเงินทั่วโลก แนะระวังลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง

04-27

‘ไทยออยล์’ ฉีกสัญญาก่อสร้าง EPC พร้อมเดินหน้า CFP เต็มสูบ ยันเสร็จไตรมาส 3 ปี 71 แน่!

04-27

ททท. เผยมิชลิน ไกด์ แมกเน็ตดึงต่างชาติเที่ยว ชี้ร้านมิชลินปี 67 สร้างรายได้สะพัด 500 ล้านบาท

04-27

สรุป! สัปดาห์นี้ทองคำผันผวนหนัก ปรับทั้งหมด 135 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 250 บาท

04-27

หนังสือรับรองการทำงาน คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร นำไปใช้อะไรได้

04-27

เมืองไทยประกันชีวิต นำเทรนด์แฟชั่น จับมือ “ asava” ปรับโฉมชุดพนักงาน

04-27

“อิกไนท์ เวนเจอร์” กางแผนยกระดับ “โรงแรมมณเฑียร” สู่จุดหมายปลายทางชั้นนำ

04-27

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap