บอร์ด กพช. เบรกรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมในกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง

2025-05-07 HaiPress

กพช. เคาะลดค่าไฟงวดปลายปี 68 ไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย ยืนยันไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน พร้อมเบรกรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมในกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาแนวทางการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต โดยมอบหมายให้ กกพ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2568ในอัตราไม่เกิน3.99บาทต่อหน่วย เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงราคาต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างมีนัยสำคัญ โดยให้ดำเนินการทั้งหมดโดยไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน

พร้อมรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในการปรับค่าFtจากเดิม36.72สตางค์ต่อหน่วย เหลือ19.72สตางค์ต่อหน่วย โดยมีการนำเงินเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินจากการไฟฟ้ามาช่วยลดค่าไฟฟ้าผ่านการปรับค่าFtส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่เรียกเก็บในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2568อยู่ที่3.98บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ที่ประชุม กพช.ได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรมตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี2566-2573 และเนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประเภทแสงอาทิตย์และพลังงานลมมีราคาลดลง และได้เห็นชอบให้ กกพ.3การไฟฟ้า และ สนพ.เจรจากับผู้ประกอบการเอกชนที่ กกพ. ประกาศชื่อให้เป็นผู้ได้รับสิทธิขายไฟฟ้ารายการ 2,180 เมกะวัตต์ โดยอ้างอิงราคาที่ กฟผ. ได้ดำเนินการ เพื่อปรับลดอัตราการรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวลง ตามข้อสังเกตที่นายพีระพันธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เสนอ โดยให้คำนึงที่ผลกระทบค่าไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้น และผลกระทบกับผู้ประกอบการที่ได้ลงทุนไปแล้วด้วย

นายพีระพันธุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมในกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง และขยะอุตสาหกรรม ภายใต้รูปแบบFeed-in Tariff (FiT)สำหรับปี2565-2573ในส่วนที่ยังไม่ดำเนินการปริมาณไฟฟ้า1,488.5เมกะวัตต์ และส่วนที่เหลือจากการรับซื้อในกลุ่ม2,180เมกะวัตต์ ตามมติ กพช. เมื่อวันที่9มี.ค.2566โดยมอบหมายให้ สนพ. ศึกษาทบทวนอัตรารับซื้อไฟฟ้าให้สอดคล้องกับต้นทุนปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต ทั้งนี้ จะไม่มีการรับซื้อไฟฟ้าจนกว่าแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ได้รับความเห็นชอบจาก กพช.

นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบผลศึกษาหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ และความคืบหน้าแนวทางการกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่ ซึ่งมีสาระสำคัญของแนวทาง ดังนี้

โรงแยกก๊าซธรรมชาติทำหน้าที่เสมือนเป็นโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ (Utility)ในการให้บริการปรับปรุงคุณภาพและแยกผลิตภัณฑ์ให้กับผู้รับบริการทุกราย โดยกำหนดผลตอบแทนการลงทุนจากการประกอบกิจการอยู่ในระดับที่เหมาะสมราคาก๊าซธรรมชาติในประเทศที่ออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ (Sales Gas)ที่นำมาคำนวณในPool Gasควรมีราคาที่ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย (Gulf Gas)โดยนำมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์C2+ ที่ได้รับจากการจำหน่ายมาเป็นส่วนลดราคา (Discount)ในสัดส่วนที่เหมาะสมกำหนดต้นทุนก๊าซธรรมชาติให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละภาคส่วน ดังนี้ ก๊าซฯ ที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซฯ ให้ใช้ต้นทุนราคาก๊าซฯ จากอ่าวไทย (Gulf Gas)ก๊าซฯ ที่นำไปใช้ในการผลิตLPGสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ใช้ต้นทุนราคาก๊าซฯ จากอ่าวไทย ก๊าซฯ สำหรับภาคไฟฟ้า และNGVให้ใช้ราคาPool Gasซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคาและปริมาณของก๊าซฯ โดยเรียงลำดับความสำคัญจากแหล่งก๊าซฯ ในประเทศ ก๊าซฯ จากเมียนมา และLNGตามลำดับ และก๊าซฯ สำหรับภาคอุตสาหกรรมให้ใช้ต้นทุนจากราคาLNGซึ่งใกล้เคียงราคาที่ซื้อขายจริงในปัจจุบัน ซึ่งการกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่นี้ จะส่งผลให้ราคาค่าไฟฟ้าถูกลง และไม่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยการดำเนินการต่อไป สนพ. จะดำเนินการหารือกับหน่วยงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน),กลุ่มอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการค้าก๊าซธรรมชาติ เพื่อสรุปหลักการและจัดทำแนวทางการดำเนินงานในรายละเอียด เพื่อเสนอ กพช. พิจารณาต่อไป

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

บอร์ดกระตุ้นศก.โยกงบ 4 หมื่นลบ.รับมือภาษี “ทรัมป์”

07-25

‘โออาร์’ ออกแถลงการณ์เสียใจเหตุปั๊มที่ศรีสะเกษมีคนเสียชีวิต เร่งช่วยเหลือเต็มที่

07-25

สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบเศรษฐกิจน้อยถ้าไม่ยกระดับเป็นสงคราม

07-25

CPAll ขอแสดงความเสียใจเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

07-25

พาณิชย์ เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ดูแลสินค้าให้เพียงพอ

07-25

เอกชนภาวนาขอไทย-เขมรจบไว ปิดด่านเสียหายวันละ 500 ล้านบาท

07-25

เปิดลิสต์หุ้นกระทบหนักไทย-กัมพูชาปะทะเดือด

07-25

“การบินไทย” พร้อมช่วยขนคนไทยใน “กัมพูชา” กลับบ้าน “สุริยะ” สั่งเฝ้าระวัง พร้อมรับมือ

07-25

ไทยแกร่ง!! บีโอไอเปิดยอดลงทุนทะลุ 1 ล้านล้านบาท พุ่ง 138% ไทย – เทศขยายคึกคัก

07-25

เช็กธนาคารปิดสาขาชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด แนะช่องทางอื่นทดแทน

07-25

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap