มูดี้ส์ฯ หั่นเครดิตสหรัฐ แนะนักลงทุนจับจังหวะขายทำกำไร ระวังแรงผันผวน

2025-05-21 HaiPress

Moody’s ปิดฉากสถานะ “เครดิตสมบูรณ์แบบ” ของสหรัฐ จากระดับสูงสุด Aaa ลงสู่ Aa1 ส่งผลตลาดหุ้นโลกเจอแรงกดดันเพิ่มขึ้น แนะนักลงทุนจับจังหวะ “ขายทำกำไร” พร้อมระวังแรงผันผวนระยะสั้น

นายธนธัช ศรีสวัสดิ์ นักกลยุทธ์ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า กรณีที่ Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ จาก Aaa ลงสู่ Aa1 ต่อจาก S&P Global Ratings และ Fitch Ratings ที่ปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐไปก่อนหน้านี้ในปี 2554 และ 2566 ตามลำดับ นับเป็นการปิดฉากสถานะ “เครดิตสมบูรณ์แบบ” ของสหรัฐ โดยสมบูรณ์

ทั้งนี้ TISCO ESU ประเมินการปรับลดอันดับเครดิตครั้งนี้ แม้ผลกระทบเชิงฉับพลันต่อตลาดเงินจะมีแนวโน้มจำกัด เนื่องจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยและเงื่อนไขการเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันสัญญาการเงินอื่นของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ถูกปรับให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นหลังจากปี 2554 และไม่ได้อิงกับอันดับ Aaa อย่างเข้มงวดเหมือนในอดีต แต่การลดอันดับเครดิตครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อตลาด โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณสำคัญของทรัมป์อย่าง “Big,Beautiful Bill” ขณะที่เศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว

ดังนั้น จึงอาจเป็นจังหวะให้นักลงทุนพิจารณาขายทำกำไรหุ้น หลังตลาดตอบรับปัจจัยบวกไปพอสมควรแล้ว ประกอบกับมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่ปรับขึ้นมาอยู่ในระดับค่อนข้างแพง ซึ่งจะกลายเป็นอีกปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นปรับฐานในระยะข้างหน้า

“การปรับลดเครดิตอาจถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดพร้อมกัน หรือ “Coincident Indicator” ของเศรษฐกิจอีกเครื่องมือหนึ่ง เนื่องจากมักเกิดขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ทำให้แม้ผลกระทบฉับพลันอย่างการถูกบังคับขายพันธบัตร และกระบวนการ Delevarage จะไม่ได้เกิดขึ้น ทว่าตลาดหุ้น S&P 500 ก็ปรับเข้าสู่การชะลอตัวในช่วงท้ายปี 2554 และ 2566 โดยเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ต่ำ อยู่ในระดับลบ 1% ถึงลบ 5% จากวันที่ถูกปรับลดอันดับเครดิตไปอีกประมาณ 2 เดือน ดังนั้น นักลงทุนควรระมัดระวังความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นได้”

ขณะที่ด้านตลาดพันธบัตร แม้จะเห็นผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ปรับสูงขึ้นบ้างหลังข่าวนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพันธบัตรสหรัฐ ยังเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่ตลาดให้ความเชื่อมั่น โดย TISCO ESU ประเมินว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) อายุ 10 ปี ที่ปรับขึ้นมาสู่ระดับ 4.5% ตามที่เคยประเมินไว้ จะเผชิญกับแรงกดดันด้านสูงเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยนี้ก็สะท้อนความเสี่ยงล่วงหน้า (Priced-in) ไปแล้วบางส่วน จากที่ Moody’s ได้ปรับลดมุมมองเป็น Negative ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ดังนั้น การปรับลดเครดิตลงในครั้งนี้จึงไม่น่าเป็นกังวลมากนัก

อย่างไรก็ตาม การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากแผนลดภาษีฉบับใหม่ของคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องรายรับภาครัฐ (The House Ways & Means Committee) ได้เสนอแผนการลดการจัดเก็บภาษี ทั้งภาคครัวเรือนและธุรกิจ อาทิ การต่ออายุมาตรการลดภาษีบุคคลธรรมดา การเพิ่มวงเงินการลดหย่อนภาษีของครัวเรือน การยกเลิกจัดเก็บภาษีทิปและค่าทำงานล่วงเวลา (Tips & Overtime) และการเพิ่มค่าโบนัสค่าเสื่อมของธุรกิจเพื่อใช้เป็นรายจ่ายลดหย่อนเมื่อคำนวณภาษีนิติบุคคล เป็นต้น ซึ่งประเมินว่าจะส่งผลให้สหรัฐขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นราว 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี 2568–2577 ส่งผลให้สหรัฐมีแนวโน้มขาดดุลการคลังที่ระดับราว 6% ของ GDP ต่อปี ในระยะข้างหน้า

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

เช็กเงื่อนไข คนละครึ่งล่าสุด 2568 ใครได้สิทธิ 60:40 ต้องเสียภาษีไหม

09-11

ราคาทองวันนี้ 10 ก.ย. ร่วง 100 บาท

09-11

ค่าเงินบาท 31.75 บาท เริ่มอ่อนค่าตามแรงขาย จับตาท่าที ธปท.ดูแลเงินบาท

09-11

‘ดร.คงกระพัน’ ซีอีโอ ปตท. แสดงวิสัยทัศน์เวทีโลก Gastech 2025

09-11

หุ้นไทยเช้านี้เปิดบวก 4.08 จุด รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท้ายปี

09-11

ธุรกิจร้านอาหาร ฝากนายกฯอนุทิน กระตุ้นใช้จ่าย-ท่องเที่ยว พยุงเอสเอ็มอี

09-11

สนง.สลากฯ ยืนยันเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ไม่กระทบทุน ODOS

09-11

‘ฟู้ดแพชชั่น’ ส่งฟิกเกอร์พี่GON เอาใจแฟนด้อม

09-11

มีขึ้นมีลง! ราคาทอง วันนี้ 11 ก.ย. ร่วง 100 บาท 

09-11

สำนักงานสลากฯ ลงใต้เยือนวิสาหกิจโครงการ ‘สลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน’

09-11

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap