4 มิติแห่งสายสัมพันธ์ “สนั่น” มองไทย – จีน 50 ปี ยิ่งแน่นแฟ้นตัดขาดไม่ได้

2025-05-27 IDOPRESS

ไทย-จีน ไม่ใช่หุ้นส่วน แต่เป็น “ครอบครัว” ความผูกพันธ์ทางใจที่ไม่มีวันตัดขาด

เป็นเวลาถึง 50 ปีแล้วที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปนับตั้งแต่ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างสองประเทศที่ถือกำเนิดขึ้น เมื่อวันที่1 กรกฎาคม2518แม้เป็นเวลาที่สั้นหากเทียบกับชาติมหาอำนาจอื่นแต่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนกลับแนบแน่นเป็นพิเศษดังสะท้อนจากคำกล่าวที่ว่า‘ไทย-จีนไม่ใช่อื่นไกลแต่เป็นพี่น้องกัน’ที่คุ้นเคยมาแต่อดีตและหนาหูขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

นอกจากการเป็น‘มหามิตร’ ที่มีความสนิทชิดเชื้อจีนยังกลาย เป็น ‘ต้นแบบ’ของไทยหลายอย่างภายในไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาในฐานะชาติมหาอำนาจที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในทศวรรษ1990จนสามารถก้าวขึ้นมาแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาที่ฉายเดี่ยวอย่างโดดเด่นในเกมแห่งอำนาจอย่างไรก็ตามในเวลานี้ความแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศกำลังถูกทดสอบอีกครั้งท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจโลกและแรงกระเพื่อมจากภูมิรัฐศาสตร์ใหม่

ในโอกาสนี้ “เดลินิวส์” จึงขอนำเสนอมุมมองของความสัมพันธ์นี้ผ่านสายตาของนักธุรกิจไทยที่เข้าใจและคลุกคลีกับนักธุรกิจจีนมานานนับสิบปี

สนั่น อังอุบลกุลประธานอาวุโสหอการค้าไทยและ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการบมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเมลามีนในจีนเมื่อกว่า30 ปีก่อนเปิดเผยถึงมุมมองที่ลึกซึ้งว่า“จีน-ไทยไม่ใช่แค่หุ้นส่วนแต่คือครอบครัวเดียวกัน”โดยความสัมพันธ์ไทย-จีนมีความพิเศษที่ไม่อาจเปรียบเทียบกับประเทศอื่นเพราะเป็นสายสัมพันธ์ที่ผสานกันใน4 ด้านหลักทั้ง ด้านเศรษฐกิจ ที่เริ่มต้นตั้งแต่สมัยอยุธยาไทยและจีนมีการค้าขายกันมายาวนานพ่อค้าชาวจีนเข้ามาตั้งรกรากและหลอมรวมเป็นคนไทยเชื้อสายจีนถึง20% ของประชากรในปัจจุบัน

ด้านวัฒนธรรม ที่ทุกวันนี้ประเพณีจีนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตไทยเช่น ตรุษจีน ไหว้พระจันทร์และไหว้บ๊ะจ่างขณะที่ราชวงศ์ไทยให้ความสำคัญกับการเรียนรู้วัฒนธรรมจีนอย่างลึกซึ้งซึ่งเห็นได้ว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีได้เสด็จไปเยือนประเทศจีนมาแล้วกว่า50 มณฑลเช่นเดียวกับ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ที่ทรงโปรดดนตรี“กู่เจิง”

ในหลายๆเรื่องแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของประเทศไทยราชวงศ์ รวมถึงรัฐบาลที่มีความสนิทสนมและมีความเข้าใจเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันกับจีนแม้ในด้านระบบการปกครองเราจะมีความแตกต่างกันก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีความมั่นคงการทูต:ตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราชถึงสงครามเย็น จีนและไทยต่างเกื้อกูลกันจนกระทั่งปี 2518ที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการรวมถึงความใกล้ชิดของประชาชน:หอการค้าไทย-จีนก่อตั้งมากว่า 100ปี ศาลเจ้าจีน และตระกูลแซ่ต่างๆ แสดงถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งระดับครอบครัว

จากยากจนสู่โรงงานโลก

สนั่นบอกว่านี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวแต่คือความผูกพันทางใจที่ไม่มีวันตัดขาดได้ พร้อมย้อนความหลังถึงการตั้งโรงงานเมลามีนแห่งแรกในปักกิ่งเมื่อ 30 ปีก่อน โดยคืนนั้นมืดสนิท ไม่มีไฟไม่มีถนนที่ดี มีแต่จักรยานเต็มเมืองการแต่งกายมีแค่สีเดียวเป็นชุดจงซานยุคเหมาเจ๋อตุงและจำได้ว่าเมื่อบอกให้ผู้จัดการโรงงานไปสั่งอาหารก็มีอาการตัวสั่นแต่วันนี้จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้เพราะความขยันและผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ทำให้ทุกวันนี้ จีน เปลี่ยนจากประเทศยากจนที่สุด สู่ โรงงานของโลกที่ผลิตสินค้าได้รวดเร็วมีคุณภาพ และต้นทุนต่ำที่สุดในโลกทั้งในด้านการแพทย์ อาวุธและอิเล็กทรอนิกส์

หากพูดถึงด้านเศรษฐกิจต้องยอมรับว่าไม่มีใครเทียบจีนได้จนถึงปัจจุบันต้องเรียกว่าเป็นผู้ผลิตสินค้าป้อนตลาดโลกที่มีต้นทุนต่ำที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดแม้ในบางส่วนยังจำหน่ายสินค้าด้อยคุณภาพแต่ในด้านที่มีคุณภาพอย่างสินค้าทางการแพทย์หรือหากพูดถึงอาวุธอุปกรณ์ไม่ได้แพ้ใคร

30 ปีที่แล้ว ศรีไทยฯนอกเหนือจากลงทุนภาชนะจานชามในปักกิ่งแล้วยังเป็นหุ้นส่วนกับพันธมิตรชาวฮ่องกงสร้างโรงงานผลิตของเด็กเล่นรายแรกในไทยชื่อว่าไทยทอย…ยุคนั้นใครที่อยู่ในอุตสาหกรรมของเด็กเล่นถือว่าเป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มากแต่หลังจากที่จีนมีการเปิดประเทศขณะนั้นแรงงานที่ผลิตของเล่นไม่เพียงพอและไทยยังเป็นตลาดที่เล็กมากจึงได้ตัดสินใจย้ายกลับไปทำตลาดในจีนโดยลงทุนสร้างโรงงานที่เซินเจิ้นจากคนงาน 100 คนภายใน10 ปีคนงานเพิ่มขึ้นกว่า 1หมื่นคน ซึ่งจะเห็นว่าความรวดเร็วของจีนสุดยอดมากแม้ภาษาอังกฤษไม่ดีแต่เนื่องจากมีความสามารถส่งสินค้าได้ตามต้องการคุณภาพดี ราคาถูก และค่าแรงถูกจึงทำเงินได้อย่างน่าทึ่งมาก

โอกาสในสมรภูมิเศรษฐกิจใหม่

ในยุคที่จีนเผชิญกับสงครามการค้ากับสหรัฐสนั่นมองว่าไทยคือฐานการผลิตทางเลือกที่สำคัญผ่านโครงการอีอีซีหรือพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษโดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่จีนให้ความสนใจมากที่สุดเห็นได้จากในปี 67จากสถิติข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)พบว่า 1 ใน3 ประเทศที่มาลงทุนในไทยมากที่สุดคือ สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุนจีนถึง73% ของต่างชาติที่มาลงทุนในไทยโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมใหม่อย่างรถยนต์ไฟฟ้า(EV)ที่จีนลงทุนในไทยแล้วประสบความสำเร็จอย่างสูงแต่ไทยต้องไม่เป็นแค่ฐานการผลิตแต่ควรเรียนรู้เทคโนโลยีสร้างซัพพลายเชน และจ้างงานคนไทยเพื่อให้การลงทุนยั่งยืนโดยอย่าเป็นแค่ทางผ่านของเงินทุนแต่ต้องเป็นผู้ร่วมเดินทางไปสู่อนาคต

ต้องแฟร์จริงไม่ใช่ฟรี

“สนั่น” กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าปัญหาสินค้าจีนราคาถูกบางส่วนไม่ได้มาตรฐานและไม่เสียภาษีจากการขายออนไลน์ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งสองประเทศดังนั้นจำเป็นที่ไทยต้องส่งสัญญาณชัดเจน ถึงจีนว่าต้องมีการแข่งขันที่ยุติธรรมซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจีนและรัฐบาลไทยพร้อมที่จะจัดการจัดระเบียบการค้าการลงทุนเพื่อให้สามารถเติบโตไปพร้อมกันและต่อยอดไปสู่ความยั่งยืนในอนาคตได้ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งสร้างอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆเพื่อให้ไทยไม่กลายเป็น“เสือหลับ” ที่ตกขบวนเศรษฐกิจโลก

ร่วมทุนเรียนรู้เติบโต

นอกจากนี้ผู้ประกอบการไทยควรเปิดใจร่วมทุนกับจีนโดยดึงจุดแข็งอย่างความเร็วในการผลิตและ เทคโนโลยีล้ำสมัยมาประยุกต์เข้ากับแรงงานไทยเช่นเดียวกับที่เคยเรียนรู้จากญี่ปุ่นในอดีตจนทุกวันนี้ประเทศไทยเปลี่ยนจากประเทศเกษตรกรรมกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ผลิตและส่งออกสินค้าซึ่งหากมีจีนเข้ามาลงทุนก็สามารถทำการค้าแบบผสมผสานเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศได้

ปีแห่งมิตรภาพที่แท้จริง

สุดท้าย “สนั่น” ได้กล่าวว่าทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชนทุกฝ่ายจึงต้องรักษาความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีนให้อยู่อย่างใกล้ชิดแน่นแฟ้นเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ในหลายด้านที่ไม่มีทางตัดขาดกันได้ และในโอกาสฉลองความสัมพันธ์50 ปีระหว่างไทย-จีนยังจะมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สำคัญ คือ การเสด็จเยือนประเทศจีนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีซึ่งจะเป็นกษัตริย์พระองค์แรกในราชวงศ์จักรีที่เสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการ

ความสัมพันธ์ในทุกระดับเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ความเชื่อมั่นระหว่างชาวไทยและชาวจีนมีแต่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นและจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทุกมิติที่สามารถช่วยกันทำได้และปีนี้ทางหอการค้าไทยร่วมกับเครือข่ายชาวไทยเชื้อสายจีนยังได้สร้าง “ซุ้มประตูวชิรสถิต72 พรรษา” และ“วชิรธำรง 72พรรษา” พร้อมรับมอบประติมากรรมจากรัฐบาลจีนเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์นิรันดร์

สายสัมพันธ์ไทย-จีนในวันนี้ไม่ได้ยืนอยู่แค่บนพื้นฐานของการค้าแต่เป็นความผูกพันในทุกมิติจากบรรพบุรุษสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน จากคนธรรมดาสู่ราชวงศ์และรัฐบุรุษจนถึงตอนนี้ เราเอื้อเฟื้อสนับสนุนกันดั่งคำที่ว่า… จงไท่อี้เจียชิน จีนไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

Talks Between Chairman of the Board of Directors of TIENS Group and Uzbekistan's Deputy Prime Minister Discussing New Developments In Digital Health Under the "Belt and Road Initiative"

08-11

ทีทีบี ยกหนี้ทหารกล้าพลีชีพ ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ทิ้งภาระให้ครอบครัว

08-08

หุ้นเช้านี้เปิดบวก 8.54 จุด Fund Flowไหลเข้าต่อ

08-08

‘กกพ.’ ชี้ช่องร้องเรียนเครื่องใช้ไฟฟ้า-ธุรกิจเสียหาย!! เหตุไฟดับสะพานควาย สั่งแจงเหตุเชิงลึกใน 7 วัน

08-08

ปลัดอุตฯ สั่งกรมโรงงานเน้นใช้เทคโนโลยีจัดการ พร้อมเปลี่ยนการทำงาน ‘ตั้งรับ’ เป็น ‘ปรับรุก’

08-08

GULF ตั้งกองทุน 100 ล้านบาท หนุนขวัญกำลังใจทหารชายแดนไทย – กัมพูชา และครอบครัว

08-08

บางจากฯ เปิดผลประกอบการครึ่งปีแรก รักษาเสถียรภาพท่ามกลางราคาน้ำมันผันผวน

08-08

เชฟรอน ผนึก BCPR ลุยสำรวจปิโตรเลียมทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65

08-08

ประชาชน-ธุรกิจไม่เชื่อมั่นศก. ทุบดัชนีต่ำสุด 30 เดือน โดนการเมืองในประเทศ-ขัดแย้งเขมร-ภาษีสหรัฐ ถล่ม

08-08

เจาะลึกอสังหาฯ ‘กรุงเทพฯ’แชมป์ คนไทยซื้อมากที่สุด ตามแนวรถไฟฟ้าย่านอ่อนนุชมาแรง

08-08

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap