รัฐปรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท มีผลดีมากกว่าแจกเงิน

2025-05-28 IDOPRESS

วิจัยกรุงศรี ชี้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ รับมือผลกระทบการค้า หากรัฐบาลทำได้จริงจะมีผลดีมากกว่าแจกเงิน เผยแนวโน้มลงทุนภาคเอกชนเปราะบาง-อ่อนแอ

“วิจัยกรุงศรี” ออกบทวิเคราะห์ประเมินเศรษฐกิจในประเทศ จากการที่รัฐบาลปรับใช้งบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรองรับผลกระทบจากสงครามการค้า ซึ่งประกอบด้วย 1.โครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำ 2.โครงการลงทุนด้านคมนาคม 3.โครงการลงทุนพัฒนาการท่องเที่ยว และ 4.โครงการยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ทั้งนี้ วางแผนให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในไตรมาส 3 หรือทำเป็นงบผูกพันก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ 2568

การปรับการใช้งบประมาณจากการกระตุ้นการบริโภคระยะสั้นในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่การลงทุนในโครงการขนาดเล็ก-กลาง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่เผชิญแรงกดดันจากนโยบายภาษีทางการค้าของสหรัฐ โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบบริหารจัดการน้ำ การคมนาคม และการท่องเที่ยว นอกจากจะสร้างผลบวกต่อเศรษฐกิจในระยะสั้นผ่านการจ้างงานและการใช้จ่ายของรัฐแล้ว ยังช่วยเสริมศักยภาพของการผลิตในระยะยาว

ขณะเดียวกันโครงการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอาจเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยในการกระจายรายได้ และเสริมกิจกรรมเศรษฐกิจฐานราก อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของมาตรการเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของโครงการ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณที่รวดเร็วและกระจายลงสู่กลุ่มเป้าหมายได้ตามแผนที่วางไว้ หากภาครัฐสามารถผลักดันให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้จริงภายในปีงบประมาณก็จะสามารถสร้าง multiplier effect ที่มากกว่าการแจกเงินแบบครั้งเดียวซึ่งมีผลระยะสั้นและอาจกระจุกตัวในบางกลุ่มผู้บริโภค ทั้งนี้ ควรมีกลไกติดตามและประเมินผลที่ชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจและความคุ้มค่าทางการคลังในระยะยาวได้อย่างแท้จริง

แนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนในปีนี้ยังอ่อนแอ ขณะที่ BOI มีการปรับเกณฑ์เพื่อส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ประกาศมาตรการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยประกอบด้วย 1.ส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพของ SMEs ไทย 2.งดส่งเสริมกิจการที่มีความเสี่ยงจากมาตรการการค้าต่างประเทศ 3.กำหนดเงื่อนไขกระบวนการผลิตที่เป็นสาระสำคัญ และ 4.ปรับปรุงเงื่อนไขการจ้างงานบุคลากรต่างชาติ นอกจากนี้ ยังออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการด้านท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด โดยให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม เช่น จากเดิม 5 ปี เป็น 8 ปี สำหรับกิจการสร้างแหล่งท่องเที่ยว และจากเดิม 3 ปี เป็น 5 ปี สำหรับกิจการโรงแรม

เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ยังมีความเปราะบาง ได้แก่ สภาพัฒน์ รายงานการลงทุนภาคเอกชนในไตรมาสแรกของปียังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ที่ -0.9%,มูลค่าการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 2.27 แสนล้านบาท ลดลง 7.8% และ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายนปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ที่ 89.9 ข้อมูลเหล่านี้อาจเกิดจากภาคธุรกิจตัดสินใจชะลอการลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ

ทั้งนี้ แม้ล่าสุด BOI ได้มีการปรับปรุงเกณฑ์สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการลงทุนทั้งในภาคการผลิตและภาคท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม คาดว่ามาตรการเหล่านี้อาจไม่เพียงพอในการเร่งฟื้นฟูการลงทุนในวงกว้าง ขณะที่ภาคธุรกิจยังรอความชัดเจนจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจแกนหลัก นโยบายของภาครัฐที่ทันต่อเหตุการณ์และตรงกลุ่มเป้าหมายอาจมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคธุรกิจ แนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนในปี 2568 จึงยังมีความเสี่ยงที่จะหดตัวต่อเนื่อง และกลายเป็นข้อจำกัดสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

แบงก์ชาติ ผลักดันเศรษฐกิจเพื่อประชาชน-การเงินดิจิทัลปลอดภัย

08-05

‘การบินไทย’คัมแบ๊กที่ราคา 10.50 บาท/หุ้น

08-05

GEELY ลุยขยายเครือข่าย30 แห่งปีนี้

08-05

กยศ. ยกหนี้ให้ทหารกล้า พลีชีพจากเหตุสู้รบ ชายแดนไทย–กัมพูชา

08-05

ค่าเงินบาทแข็งค่า 32.48 บาท มีแรงขายเงินดอลลาร์ จับตาประเด็นในประเทศ-ตปท.

08-05

หุ้นเช้านี้เปิดบวก 4.20 จุด ยังตอบรับไทยได้อัตราภาษีอัตรา 19% 

08-05

‘ไขปมค่าไฟแพง’ Pool Gas คืออะไร ทำไมคนไทยต้องจ่ายแพง!

08-05

ย้อนไทม์ไลน์ ‘การบินไทย’ ก่อนกลับมาคัมแบ๊กด้วยหุ้นราคา 10.50 บาท

08-05

ซีพีเอฟ เปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูกาลใหม่ที่จะออกมาในช่วงเดือนส.ค.นี้ 

08-05

ผู้อำนวยการ ‘อคส.’ เปิดแผนขับเคลื่อนองค์กร 3 ด้านเน้นสร้างกำไร-โปร่งใส-ทันสมัย

08-05

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap