“ไรซ์ บัดดี้” เล็ง จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอีก 2 ปี ระดมทุน 5 พันล้านบาท

2025-06-06 HaiPress

“ไรซ์ บัดดี้” เล็ง จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอีก 2 ปี ระดมทุน 5 พันล้านบาท สร้างโรงงานใหม่-แตกไลน์สินค้าจากข้าว

นายโอลิเวอร์ เย้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวด์ เฟธ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตขนมข้าวอบกรอบจากข้าวไทย ยี่ห้อไรซ์ บัดดี้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวในไทยมีมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาทเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% จาก ปัญหาเศรษฐกิจไม่ดีทำให้คนไทยต้องขยันทำงานมากขึ้นจนไม่มีเวลารับประทานอาหารและมักจะทานขนมขบเคี้ยวแทน โดยเฉพาะขนมที่ทำจากข้าวอบกรอบ จนปัจจุบันมีมูลค่าถึง 2,000 ล้านบาท เนื่องจากยังตอบโจทย์ในเรื่องของสุขภาพได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ไวด์ เฟธ กรุ๊ป เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตขนมข้าวอบกรอบจากข้าวไทย 100% โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2545 ภายใต้แนวคิด “Better for You” ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องกว่า 23 ปี โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารมากกว่า 30 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัย และพัฒนาขนมขบเคี้ยวแบบอบที่ไม่ผ่านการทอด พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับการรับรองในระดับสากล

โดย บริษัทฯ เริ่มก่อตั้งโรงงานแห่งแรกในปี พ.ศ. 2545 บนพื้นที่ 8 ไร่ และขยายโรงงานแห่งที่สองในปี 2557 บนพื้นที่ 13 ไร่ ทั้งสองโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี จ.สมุทรปราการ ใช้เงินลงทุนรวม 500 ล้านบาท ต่อมาในปี 2558 บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มอีก 800 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานแห่งใหม่ โดยการย้ายเครื่องจักรจากโรงงานแห่งแรกไปยังนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จ.ชลบุรี บนพื้นที่ 34 ไร่ เพื่อปรับปรุงโครงสร้าง เครื่องจักร อุปกรณ์ และนวัตกรรมการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

จากนั้นตัดสินใจยุติการดำเนินงานของโรงงานแห่งแรกในจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเร่งติดตั้งสายการผลิตใหม่ในโรงงานจังหวัดชลบุรี ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้รองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อการปรับปรุงแล้วเสร็จในปี 2568บริษัทจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม 18,568 ตันต่อปี จาก 6 สายการผลิตใน 2 โรงงาน เป็น 40,168 ตันต่อปี ด้วยการขยายโรงงานเพิ่มอีก 2 แห่งในจังหวัดชลบุรี พร้อมติดตั้งสายการผลิตเพิ่มเติมอีก 6 สาย รวมถึงการยกระดับกระบวนการวิจัยและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ขณะที่แผนงานจากนี้ในปี71 และ73 บริษัทใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 1,400 ล้านบาท สำหรับสร้างโรงงานเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่จังหวัดชลบุรีในพื้นที่เดียวกับโรงงานชลบุรี2 ที่เปิดล่าสุด เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้าส่งออกไปยังประเทศใหม่ๆ อาทิ สหรัฐ แคนนาดา อเมริกาใต้ ขิลี อาร์เจนตินา และแม็กซิโก เพิ่มจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนส่งออก 85% ในประเทศจีน ซาอุดิอาระเบีย และฟิลิปปินส์ โดยที่เป็นการผลิตให้แบรนด์ต่างๆ(โอดีเอ็ม) 75%

นอกจากนี้ ภายในปี70 ยังมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อเข้าระดมทุนในมูลค่า 5,000 ล้านบาท สำหรับใช้สร้างโรงงานดังกล่าง พร้อมกับสร้างแบรนด์สินค้า และแตกไลน์สินค้าใหม่จากข้าว รวมไปถึงการเข้าไปร่วมทุนและตั้งโรงงานในต่างประเทศ อาทิ อินเดีย ใน 2 ปีนี้ เพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่ง และช่วยขยายการเติบโตเพิ่มมากขึ้นจากปี68 นี้ตั้งเป้าหมายมีรายได้ 1,000 ล้านบาท เติบโต 20% และใน 5 ปี มีรายได้ถึง 5,000 ล้านบาท

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

‘ฮิวแมนิก้า’ ผนึก พาณิชย์บัญชี มธ.เสริมศักยภาพแพทย์ไทย

08-04

ภาคธนาคารชื่นชมทีมเจรจาการค้าสหรัฐ สู่ความสำเร็จข้อตกลงภาษีทรัมป์ 19%

08-04

เอ็น.ซี.ซี. จัด BKKIP 2025 เปิดโอกาสให้เกิดการซื้อขายลิขสิทธิ์ 

08-04

‘เอกนัฏ’ ถกคลังงัดแผนอุ้มเอกชนกระทบภาษีทรัมป์ 19%

08-04

ดัชนีหุ้นไทยปิดลบ 24.02 จุด แมงเม่าเทขายทำกำไร

08-04

เริ่มแล้ว!! งานแฟร์ขายของถูกสถานีกลางบางซื่อ ก.อุตฯ-ก.คมนาคม ผนึก 19 ค่ายรถ-สหพัฒน์

08-04

นักเศรษฐศาสตร์ชี้โอกาสของไทย ภาษีทรัมป์ 19% แข่งขันได้ เปิดข้อควรระวัง

08-04

เสร็จแล้ว 1 อุโมงค์รถไฟฟ้า “สายม่วงใต้” เหลืออีก 3 สัญญา ปิดจ๊อบปี 69

08-04

ครม.นัดพิเศษใช้เวลา 1 เดือนสรุปภาษีสหรัฐ 0%

08-04

สลากดิจิทัลแตก 162 ล้าน รวยกระจาย 20 คน สูงสุดรับเละถึง 18 ล้านบาท

08-04

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap