ไทย-ต่างชาติ ร่วมถก "เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" เชียร์ไทยควรเปิด 5 แห่ง กรุงเทพ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต ตามแหล่งท่องเที่ยว สร้างเม็ดเงินลงทุนกว่า 600,000 ล้านบาท แต่ย้ำกฎหมายต้องชัดเจน

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.68 บริษัท อินไซด์ เอเชียน เกมมิง จำกัด ได้จัดเสวนาโต๊ะกลมว่าด้วยสถาบันบันเทิงครบวงจรของไทย เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองโครงการลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งฝ่ายเห็นด้วยและคัดค้าน โดยนายจอร์จ ธนาสวิช อดีตผู้บริหารมารินา เบย์ แซนส์ และลาสเวกัส แซนส์ กล่าวว่า การลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย ถือเป็นโอกาสดีที่จะนำจุดแข็งจากทั่วโลกมารวมกัน แต่รัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ ซึ่งต้องชัดเจนเรื่องกฎระเบียบ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องการความโปร่งใสในการดำเนินการ เพื่อตัดสินใจลงทุนต่อไป

ส่วนประเด็นเรื่องรายได้นั้น ช่วงเริ่มแรก อาจต้องมองว่ารายได้หลักจะมาจากกาสิโน แต่เมื่อพัฒนาส่วนอื่นๆ เชื่อว่าสัดส่วนกาสิโนจะลดลง เช่น ในลาสเวกัส และมารีน่า เบย์ แซนส์ ที่รายได้ธุรกิจอื่นมาจากฟอร์มูล่า 1 คอนเสิร์ตระดับโลก และโรงแรมหรู

ด้านนายจอร์จ ซอย หัวหน้างานวิจัยเกมระดับโลก ซิตี รีเซิร์ช กล่าวว่า ในเบื้องต้นประเมินว่าประเทศไทยควรมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ 5 แห่ง ตามเมืองท่องเที่ยว อาทิ กรุงเทพ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งแต่ละแห่งจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 100,000 ล้านบาท ดังนั้นหากลงทุนทั้ง 5 แห่ง จะมีเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 600,000 ล้านบาท นอกจากนี้รัฐบาลไทยจะมีรายได้เพิ่มจากค่าธรรมเนียม ใบอนุญาต ภาษี ส่งผลดีต่อฐานะการคลัง และการสร้างงานกว่า 35,000 อัตรา มีธุรกิจร้านอาหารเกิดขึ้นอีกเยอะ เหมือนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เป็นต้น ที่สำคัญทำให้การพนันนอกระบบลดลง

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า การเกิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อในประเทศไทยนั้น โดยส่วนตัวมีความกังวลจะทบต่อนักท่องเที่ยวจีนที่จะมาเที่ยวไทยลดลง เนื่องจากจีน ไม่สนับสนุนให้ประชาชนเช่นการพนัน ขณะเดียวกันยังไม่เห็นรัฐบาลมีมาตรการควบคุมกำกับดูแลที่รัดกุม ทั้งป้องกันการติดการพนัน การฟอกเงิน ดังนั้นจึงมองว่าโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อ เป็นนโยบายที่รัฐบาลไม่ได้ศึกษาผลกระทบรอบด้าน ไม่สื่อสารตรงไปตรงมา ทำให้เกิดวามไม่ไว้วางใจของประชาชน

“การกำหนดเงินในบัญชีเงินฝาก 50 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อสกัดคนไทยเข้าไปเล่นพนันในกาสิโนนั้น ผมมองว่ารัฐบาลไม่ตรงไปตรงมา ย่อมผ่านเงื่อนไขนี้ในขั้นตอนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วไปแก้ไขในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการ (กมธ.)​ ส่วนการดึงดูดต่างชาติมาลงทุนนั้น ผมเห็นด้วย แต่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยด้วย ทั้งการแข่งขันเป็นธรรมและปัญหาสังคมด้วย