เปิดรายได้ ‘MK-สุกี้ตี๋น้อย’ ก่อนระเบิดศึกอัดโปรแข่งเดือด

ถ้าพูดถึงชาบู-สุกี้ ในนาทีนี้…น้อยคนที่จะไม่รู้จักกับ 2 แบรนด์ดังอย่าง“เอ็มเคสุกี้ และ สุกี้ตี๋น้อย”ที่ออกหมัดแข่งทำการตลาดกันอย่างดุเดือด แม้สภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อคนไทยปีนี้จะไม่เอื้ออำนวย

โดยล่าสุด ได้กลายเป็นไวรัลสะเทือนโซเชียลฯอย่างหนัก เมื่อ“เอ็มเคสุกี้”ตัดสินใจสู้ศึกด้วยการออกโปรโมชั่น คุ้ม คุ้ม อิ่มไม่อั้น 299.- ต่อท่าน ใน 19 เมนูคุณภาพ ตั้งแต่วันที่ 9-30 มิ.ย.68

สำหรับเหตุผลของการออกมาสู้ด้วยราคา 3 ใบแดงมีทอน! ขนาดนี้ ก็เพื่อกระตุ้นการผู้บริโภคในราคาที่สุดคุ้ม และเร่งเครื่องรายได้เพิ่มมากขึ้น…ถือเป็นราคาที่ลดลงมาใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ขาย 219.- ต่อท่าน ราคาเดียวเลยทีเดียว

ด้าน“สุกี้ตี๋น้อย”เองก็ไม่รอช้า จัดโปรลดแรง้ข้าไปอีก เพื่อฉลองครบ 1 ล้านผู้ติดตาม ในราคาแค่ 199.- ต่อท่าน หรือ 2 ใบแดงมีทอน วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่วันที่ 11-30 มิ.ย. 2568

เปิดรายได้เอ็มเคสุกี้

เมื่อพูดถึงรายได้เอ็มเคสุกี้ช่วงไตรมาส1 ปี2568 นี้ พบว่าบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ Mมีรายได้จากการขายและบริการ 3,541 ล้านบาท ลดลง 10.3% เทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากรายได้แต่ละช่องทางมีสัดส่วนค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาจากช่องทางรับประทานที่ร้าน 84% ของรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด

ทั้งนี้ยอดขายสาขาเดิมปรับลดลง 10.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมทั้งการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในธุรกิจร้านอาหาร

ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ที่ 234 ล้านบาท ลดลง 32.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและลดลง 6.4% จากไตรมาส 4 ปี2567 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในธุรกิจร้านอาหาร และต้นทุนวัตถุดิบบางประเภทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จนสร้างผลกระทบต่อตลาดธุรกิจร้านอาหารในไทยเป็นวงกว้าง ตั้งแต่เชนร้านอาหารขนาดใหญ่ ขนาดกลาง จนถึงร้านอาหารขนาดเล็ก

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 MK GROUP มีร้านอาหารในเครือทั้งหมด 13 แบรนด์ รวม 723 สาขา โดยในประเทศจำนวน 688 สาขา คือ MK Restaurants,MK Live,MK Gold,YAYOI,แหลมเจริญ ซีฟู้ด,HIKINIKU TO COME,HAKATA Ramen,MIYAZAKI,เลอ สยาม,ณ สยาม,BIZZY BOX (Grab&go),LE PETIT,Multi Brand

นอกจากนี้มีสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศอีก 35 สาขา คือ MK Restaurants สาขาประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว,สาขาแฟรนไชส์ แหลมเจริญ ซีฟู้ด สาขาประเทศมาเลเซีย,MIYAZAKI สาขาประเทศลาว

เปิดรายได้สุกี้ตี๋น้อย

ด้าน บริษัท บีเอ็นเอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN)เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร “สุกี้ตี๋น้อย” (Suki Teenoi) ล่าสุดผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 271 ล้านบาท

โดยมาจากการรายงานผลประกอบการของ บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น “บีเอ็นเอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป” สัดส่วน 30% โดย เจมาร์ทรายงานว่า จบไตรมาส 1 ปี 2568 “สุกี้ตี๋น้อย” มีสาขาทั้งหมด 82 สาขา,Teenoi BBQ (บุฟเฟต์ปิ้งย่าง) 2 สาขา และ Teenoi Express (บุฟเฟต์พรีเมียม) 1 สาขา

ไตรมาสแรกที่ผ่านมา “สุกี้ตี๋น้อย” เปิดสาขาเพิ่มขึ้น4 สาขา โดยสาขาที่เปิดเพิ่มเป็นสาขาที่ขยายออกไปต่างจังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก บุรีรัมย์ หนองคาย และนครสวรรค์ ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหนาแน่น และได้รับการตอบรับดีจากชุมชน ที่ต้องการใช้บริการร้านสุกี้ ชาบู ราคาที่เข้าถึงง่ายและคุ้มค่า ด้วยบุฟเฟต์ 219 บาท ราคาเดียว (ไม่รวมค่าเครื่องดื่มรีฟิลและภาษีมูลค่าเพิ่ม)

นอกจากนี้ “สุกี้ตี๋น้อย” ได้ร่วมมือกับ JAS Asset เปิด Teenoi BBQ (บุฟเฟต์ปิ้งย่าง) เพิ่ม 1 สาขา ที่คอมมูนิตี้มอลล์ Jas Green Village คู้บอน ในพื้นที่ของ JAS Asset