มาเลเซียเที่ยวไทยแซงจีนรอบ 13 ปี “ยุทธศักดิ์” ชี้อาจวืดเป้ารายได้

2025-06-13 HaiPress

มาเลเซียเที่ยวไทยแซงจีนรอบ 13 ปี "ยุทธศักดิ์" ชี้อาจวืดเป้ารายได้ แนะดึงมาเลย์เที่ยวไทย 2 คน ต่อจีน 1 คน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซีย กลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 แซงนักท่องเที่ยวจีน ครั้งแรกในรอบ 13 ปี นับจากปี 55 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยจำนวน 2.761 ล้านคน ขณะที่มาเลเซียเดินทางเข้าไทย 2.546 ล้านคน โดยวันที่ 6 มิ.ย. 68 นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้าไทยจำนวน 2.016 ล้านคน ส่วนนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวน 2.011 ล้านคน 

ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นข่าวดี แต่ไม่สามารถชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอลงได้ เมื่อดูจากตัวเลขการเดินทางในปี 2567 ของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย มีวันพักเฉลี่ยต่อคนต่อทริป 4.17 วัน ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปอยู่ที่ 21,450 บาท ค่าใช้เฉลี่ยต่อคนต่อวัน 5,144 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวจีน มีจำนวนวันพักเฉลี่ยจำนวน 7.35 วัน ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปจำนวน 42,428 บาท ดังนั้นการขึ้นมาเป็นที่ 1 ของมาเลเซีย จึงยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแตกต่างจากนักท่องเที่ยวจีน ทั้งในแง่ของการกระจายตัวและรายได้

“จากเป้าหมายการทำงานของ ททท. ในปี 2568 ในแง่จำนวนอาจไม่มีปัญหา แต่ในแง่ของรายได้ที่ตั้งเป้าทั้งปีจำนวน 2.8 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยนักท่องเที่ยวมาเลเซียจำนวน 5.4 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจีนจำนวน 6.9 ล้านคน ดังนั้นการหดตัวลงของนักท่องเที่ยวจีน หากต้องใช้นักท่องเที่ยวมาเลเซียมาชดเชยนักท่องเที่ยวจีน หากนักท่องเที่ยวจีนลดลง 1 คน ต้องได้นักท่องเที่ยวมาเลเซียจำนวน 2 คน จึงจะทำให้เป้าหมายรายได้สัมฤทธิผล ในแง่ของรายได้ของ 2 ประเทศ ที่จะชดเชยกันได้” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ภูมิทัศน์การท่องเที่ยวไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไป หากพิจารณาจากโครงสร้างนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย 10 อันดับ ในช่วงปี 67 และปี 68 เนื่องจากการพัฒนาการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน มาเลเซียก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนจีน ไม่ใช่ขยายตัว แต่เป็นการหดตัวลดลงน้อยกว่าจีน ขณะที่อินเดียน่าจะแซงรัสเซีย ขึ้นเป็นที่ 3 จากนโยบายฟรีวีซ่า และไต้หวันอาจตกไปอยู่ในอันดับ 6 ในช่วงปลายปี 2568

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

แบงก์ชาติ ผลักดันเศรษฐกิจเพื่อประชาชน-การเงินดิจิทัลปลอดภัย

08-05

‘การบินไทย’คัมแบ๊กที่ราคา 10.50 บาท/หุ้น

08-05

GEELY ลุยขยายเครือข่าย30 แห่งปีนี้

08-05

กยศ. ยกหนี้ให้ทหารกล้า พลีชีพจากเหตุสู้รบ ชายแดนไทย–กัมพูชา

08-05

ค่าเงินบาทแข็งค่า 32.48 บาท มีแรงขายเงินดอลลาร์ จับตาประเด็นในประเทศ-ตปท.

08-05

หุ้นเช้านี้เปิดบวก 4.20 จุด ยังตอบรับไทยได้อัตราภาษีอัตรา 19% 

08-05

‘ไขปมค่าไฟแพง’ Pool Gas คืออะไร ทำไมคนไทยต้องจ่ายแพง!

08-05

ย้อนไทม์ไลน์ ‘การบินไทย’ ก่อนกลับมาคัมแบ๊กด้วยหุ้นราคา 10.50 บาท

08-05

ซีพีเอฟ เปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูกาลใหม่ที่จะออกมาในช่วงเดือนส.ค.นี้ 

08-05

ผู้อำนวยการ ‘อคส.’ เปิดแผนขับเคลื่อนองค์กร 3 ด้านเน้นสร้างกำไร-โปร่งใส-ทันสมัย

08-05

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap