‘แบงก์ชาติ’ จ่อรื้อดอกเบี้ยรถยนต์-จยย. คุยสคบ.ดึงกลับมาดูแลเอง

2025-06-13 IDOPRESS

แบงก์ชาติ คุมลีสซิ่งนอกกำกับกว่า 3,000 ราย เรียกมาลงทะเบียน ก.ย. นี้ กฎหมายมีผล 2 ธ.ค. นี้ พร้อมคุย สคบ. ดึงการคิดดอกเบี้ยกลับมากำหนดเอง หลังครบ 3 ปี สคบ. จ่อทบทวนดอกเบี้ยใหม่

วันที่ 12 มิ.ย. น.ส.พีรจิต ปัทมสูต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการออกประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. 2568 (พ.ร.ฎ.เช่าซื้อลีสซิ่งฯ) จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 68 เป็นต้นไป โดย ธปท. จะออกประกาศหลักเกณฑ์กำหนด และเรียกให้ผู้ประกอบธุรกิจมาลงทะเบียนตั้งแต่เดือน ก.ย. 68 จนถึงไตรมาสแรกปี 69 เป็นระยะเวลา 6 เดือน

สำหรับธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่ง เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ผ่านมาไม่มีองค์กรใดกำกับ มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.6 ล้านล้านบาทในปี 67 คิดเป็น 10% ของหนี้ครัวเรือน โดยมีทั้งสิ้นกว่า 3,000 ราย ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวนมากจากธุรกิจกลุ่มนี้ ทั้งแจ้งข้อมูลไม่ครบ และบริการไม่เป็นธรรม โดยกฎหมายนี้เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการเป็นธรรม และรักษาเสถียรภาพ ดูแลหนี้ครัวเรือน มีการคิดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม เป็นมาตรฐาน โปร่งใส การปรับโครงสร้างหนี้ได้มาตรฐานเดียวกัน ข้อมูลชัดเจน ลูกค้าเปรียบเทียบเลือกใช้บริการได้

นอกจากนี้ ธปท. เตรียมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ถึงการกำหนดเพดานดอกเบี้ยรถยนต์ รถยนต์มือสอง และจักรยานยนต์ โดย ธปท. จะเป็นผู้ดูแลเอง หลังจากดอกเบี้ยที่ผ่านมา สคบ. เป็นผู้กำหนด และใกล้ถึงเวลาทบทวนทุก 3 ปี ในเดือน ต.ค. นี้ จากปัจจุบันเพดานดอกเบี้ย รถยนต์ใหม่ไม่เกิน 10% รถยนต์มือสองไม่เกิน 15% และรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% ซึ่งการกำหนดดอกเบี้ยต้องดูข้อมูลครบถ้วน หารือผู้ประกอบการ ดูสภาพเศรษฐกิจ และต้นทุนธุรกิจ รวมทั้งไม่ผลักภาระไปให้ผู้บริโภค

“สินเชื่อจะลดลงหรือไม่ ทุกวันนี้มีสินเชื่อไม่เหมาะสม หนี้ครัวเรือนสูง ธปท. อยากให้หนี้ครัวเรือนลด แต่เชื่อว่าประชาชนจะยังได้รับสินเชื่อปกติ พร้อมเน้นย้ำหากผู้ประกอบการมาลงทะเบียนไม่ทัน แม้จะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และไม่ต้องมาขอใบอนุญาตใดๆ แต่จะมีโทษปรับตามกฎหมายสถาบันการเงิน ส่วนโทษปรับกรรมการ 5 แสนบาทนั้น ต้องดูแล้วแต่กรณี จะมีวิธีการเปรียบเทียบปรับ โดยการลงทะเบียนเป็นแค่มารายงานตัว ระบุข้อมูลไม่มาก เพื่อให้ ธปท. มีข้อมูลที่ชัดเจนและนำมาประกอบการทำนโยบายในอนาคต”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

‘ฮิวแมนิก้า’ ผนึก พาณิชย์บัญชี มธ.เสริมศักยภาพแพทย์ไทย

08-04

ภาคธนาคารชื่นชมทีมเจรจาการค้าสหรัฐ สู่ความสำเร็จข้อตกลงภาษีทรัมป์ 19%

08-04

เอ็น.ซี.ซี. จัด BKKIP 2025 เปิดโอกาสให้เกิดการซื้อขายลิขสิทธิ์ 

08-04

‘เอกนัฏ’ ถกคลังงัดแผนอุ้มเอกชนกระทบภาษีทรัมป์ 19%

08-04

ดัชนีหุ้นไทยปิดลบ 24.02 จุด แมงเม่าเทขายทำกำไร

08-04

เริ่มแล้ว!! งานแฟร์ขายของถูกสถานีกลางบางซื่อ ก.อุตฯ-ก.คมนาคม ผนึก 19 ค่ายรถ-สหพัฒน์

08-04

นักเศรษฐศาสตร์ชี้โอกาสของไทย ภาษีทรัมป์ 19% แข่งขันได้ เปิดข้อควรระวัง

08-04

เสร็จแล้ว 1 อุโมงค์รถไฟฟ้า “สายม่วงใต้” เหลืออีก 3 สัญญา ปิดจ๊อบปี 69

08-04

ครม.นัดพิเศษใช้เวลา 1 เดือนสรุปภาษีสหรัฐ 0%

08-04

สลากดิจิทัลแตก 162 ล้าน รวยกระจาย 20 คน สูงสุดรับเละถึง 18 ล้านบาท

08-04

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap