เศรษฐกิจไทยทรุดเสี่ยงถดถอย หวังนโยบายการคลัง-การเงินแรงส่งสำคัญ

2025-06-19 IDOPRESS

เศรษฐกิจไทยทรุดโตแค่ 1.5% เสี่ยงถดถอยติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อ จากปัจจัยสงครามการค้า ลงทุนชะลอ คาดงบ 1.57 แสนล้านบาทผลดีกว่าแจกเงินดิจิทัล แต่ไม่เพียงพอ ชี้นโยบายการคลัง-นโยบายการเงิน เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

วันที่ 18 มิ.ย. นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) เปิดเผยว่า อีไอซี คาดเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 68 จะขยายตัว 1.5% และในปี 69 ขยายตัว 1.4% โดยในครึ่งปีหลังจะเห็นจีดีพีเติบโตต่ำกว่า 1% และมีแนวโน้มที่เห็นเศรษฐกิจไทยถดถอยเชิงเทคนิค หรือติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล มาจากสงครามการค้า ความไม่แน่นอนภาคการส่งออกชะลอตัว คาดทั้งปีติดลบ 0.1%

ทั้งนี้ ผลจากสงครามการค้าสหรัฐกับประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยลดน้อยลง คาดว่าในปี 68 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทย 34.2 ล้านคน น้อยกว่าปี 67 ที่มีอยู่ 35.5 ล้านคน ส่วนหนึ่งมาจากปัญหานักท่องเที่ยวจีนและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังการใช้จ่ายจากความไม่แน่นอนสูง

นอกจากนี้ การลงทุนหดตัว 2.2% ในปีนี้ เพราะนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนในเรื่องต่างๆ และไทยได้มีปัญหาจากแผลเป็นทางเศรษฐกิจ ทั้งหนี้ครัวเรือนที่มีภาระหนี้สูง การขยายตัวของจีดีพี และสินเชื่อสถาบันการเงินชะลอตัว ทำให้การใช้จ่ายบริโภคของประชาชนค่อนข้างอ่อนแรงต่อเนื่อง รวมทั้งตลาดแรงงานเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เพราะการจ้างงานลดลง คนว่างงานสูงและมีการปิดกิจการที่มากขึ้น

นายยรรยง กล่าวว่า รายได้ของแรงงานไทยยังต่ำกว่ารายได้ที่แท้จริง เช่น มี 100 บาทก่อนโควิด ตอนนี้มีเพียง 98 บาท ซึ่งต้องติดตามนโยบายต่างๆ มารองรับ โดยเฉพาะนโยบายการคลังที่รัฐบาลปรับวงเงิน 1.57 แสนล้านบาทจากการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทมาเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในเรื่องอื่นที่ตอบโจทย์มากกว่า เช่น โครงการน้ำ การท่องเที่ยวและการค้า ซึ่งถือเป็นประโยชน์ เพราะมีผลทวีคูณต่อระบบเศรษฐกิจมากกว่าการแจกเงินดิจิทัล แต่ระยะเวลามีผลอาจใช้มากกว่า

อย่างไรก็ตามมองว่าวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทยังไม่เพียงพอรองรับความท้าทาย โดยอาจต้องเพิ่มวงเงินให้มากขึ้น ขณะที่ในช่วงที่การเก็บภาษีได้ต่ำ และต้องการใช้เงินจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจทำให้หนี้สาธารณะของไทยเร่งขึ้นชนเพดานอยู่ที่ 70% ต่อจีดีพีในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันนโยบายการเงินต้องเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้อีก 2 ครั้งมาอยู่ที่ 1.25% และอีก 1 ครั้งในปี 69 มาอยู่ที่ 1% และกว่านโยบายการเงินจะมีผลต้องใช้เวลามากถึง 5-8 ไตรมาส

นายยรรยง กล่าวถึงการขึ้นค่าแรง 400 บาท โดยมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะค่าแรงไทยต่ำเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ แต่ปัญหาคือต้องดูว่ากำลังแรงงานในไทยเพียงพอหรือไม่ เพราะได้นำเข้าแรงงานจากต่างประเทศค่อนข้างสูง ซึ่งการปรับเพิ่มค่าแรงอาจทำให้รายได้ไปสู่ความยั่งยืนและทำให้ค่าจ้างแรงงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ถ้ามีในเรื่องการเพิ่มทักษะแรงงานจะยิ่งเป็นประโยชน์มากขึ้นด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรายได้

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

เปิดฉากเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ ปลดล็อกภาษีตอบโต้ มะกันยื่น 5 ข้อเสนอ

06-19

หุ้นเช้านี้เปิดบวก 0.43 จุด คาดวันนี้ตลาดแกว่งตัวผันผวนทางลง

06-19

สูงสุดประวัติการณ์ส่งออกพ.ค.68 โต 18.4% 31,000 ล้านดอลลาร์ ทะลุ 1 ล้านล้านบาท

06-19

เศรษฐกิจไทยทรุดเสี่ยงถดถอย หวังนโยบายการคลัง-การเงินแรงส่งสำคัญ

06-19

เงินบาทอ่อนค่า 32.62 บาท กังวลสงครามอิหร่าน-อิสราเอลลากยาว

06-19

พาณิชย์ ดึง“ไทยแอร์เอเชีย“ ซื้อผลไม้ 1 ล้านกก. เสิร์ฟเมนูอาหารบนเครื่องบิน ช่วยเกษตรกร

06-19

ราคาทองวันนี้ 18 มิ.ย. ลดลง 50 บาท

06-19

จุลพันธ์ เผย ธ.ก.ส. พร้อมแจกเงินช่วยชาวไร่อ้อย เกี่ยวสดลดฝุ่น PM2.5 ตันละ 69 บาท

06-19

คลังสวน”คิง เพาเวอร์”ฟังไม่ขึ้น อ้างปิดร้านขาเข้า-ภาษีไวน์ มายกเลิกสัญญา

06-19

ลุยต่อไม่สนใคร..กรมโรงงานฯ ผนึกทีมสุดซอยบุกโรงงานยางพื้นที่ชลบุรี สั่งแก้ไขพรึ่บ!!

06-19

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap