เศรษฐกิจไทยสารพัดเสี่ยง การเมืองไม่นิ่ง กดดันจีดีพีทรุด หวังรัฐเร่งกระตุ้น

2025-07-01 IDOPRESS

“ดร.กอบศักดิ์” ชี้ไทยสารพัดเสี่ยง การเมืองไม่แน่นอน กดดันจีดีพีทรุดหนัก เลวร้ายอาจร่วงถึง 1.5% จี้รัฐเร่งสาง ฟื้นส่งออก-ท่องเที่ยว กระตุ้นลงทุน หวัง ธปท. ลดดอกเบี้ย 1-2 ครั้ง ช่วยเพิ่มแรงส่งเศรษฐกิจไทย

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีความไม่แน่นอนและความเสี่ยงจากปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีการปรับคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปีนี้เหลือ 2% จากคาดเดิม 3% เพราะแรงซื้อการส่งออกจะลดลงในครึ่งปีหลัง การท่องเที่ยวไทยลดลงกว่าคาดจะอยู่ที่ 35.5 ล้านคน ปัญหามาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐ แผ่นดินไหว และความไม่แน่นอนของการเมืองไทย ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ อาจล่าช้า ซึ่งหากมองกรณีเลวร้ายมีปัจจัยรุนแรงมากขึ้น จีดีพีไทยอาจเหลือแค่ 1.5% ในปีนี้

ทั้งนี้ ยอมรับว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเวลานี้มีปัญหา แต่จะช่วยให้ลูกค้าผ่านไปได้อย่างไร โดยพบว่ายอดรูดบัตรเครดิตติดลบ และบางสินค้าขายไม่ดี ร้านอาหารคนเข้ามาน้อยลง รวมทั้งยังมีผู้ประกอบการปิดร้านอาหาร ปิดธุรกิจ ปิดโรงงาน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ผู้ที่ทำธุรกิจควรประคับประคองตัวเอง และปรับสู่ยุคใหม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนสูงอาจมีความเสี่ยงด้านลบดูทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ภาษีสหรัฐ และสงครามอิหร่าน-อิสราเอล โดยความขัดแย้งในโลกมีความไม่แน่นอนสูงมากขึ้น

นอกจากนี้จากความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้นักธุรกิจชะลอลงทุน เพื่อเก็บสภาพคล่องไว้ มองว่าไทยควรสร้างโมเมนตัม โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรลดดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 1-2 ครั้ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.75% เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยมีแรงส่ง และถ้าหากในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เศรษฐกิจไทยจะพอไปได้ เพราะถ้าเครื่องยนต์ดับไปทีละเครื่อง และถ้าเครื่องบินเริ่มตกลง จะเหยียบคันเร่งตอนนั้นก็ลงไม่ทัน

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ประเมินสถานการณ์การเมืองไทยในเวลานี้ ยังเร็วเกินไปที่จะมองว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร และจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร แต่รู้แค่ว่าในตอนนี้มีปัจจัยท่ามกลางความผันแปรของโลกที่สามารถประเมินได้ โดยต้องเตรียมรับมือ เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. สามารถทำโปรโมชั่นเพื่อทำการสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย และอยากให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาให้ภาคส่งออก เช่น การช่วยหาตลาดใหม่ และต้องการให้มีแรงจูงใจดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุนโดยตรง หรือเอฟดีไอ ให้มากขึ้นด้วย

“มีความกังวลใจเพราะมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศ จากความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้นักธุรกิจชะลอลงทุน และเฝ้าดูการตัดสินใจ อีกทั้งไทยยังเจอปัญหาสินค้าจีนไหลเข้ามาในไทย เพราะจีนส่งสหรัฐไม่ได้ ก็ส่งออกไปประเทศอื่น ขณะที่การส่งออก ไทยมีออร์เดอร์ไปมากในช่วงครึ่งปีแรก แต่ครึ่งปีหลังอาจไม่ดี ควรหาทางเจรจาการค้าอื่นๆ และจะทำอย่างไรให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

“ส.อ.ท.” ชี้นายกฯหลุดเก้าอี้ กระทบเบิกจ่ายงบ-การลงทุนชะงัก แนะรัฐเร่งสร้างความมั่นใจกับนักลงทุน

09-01

รัฐบาลเล็งรีดภาษีเพิ่ม 6 แสนล้าน แก้วิกฤติการคลัง ขาดดุลระยะยาว

09-01

“หอการค้าไทย” ขอเร่งหานายกรัฐมนตรีใหม่ ห่วงการเมืองซ้ำเติมเศรษฐกิจกระทบเป็นลูกโซ่

09-01

ดัชนีหุ้นปิดลบ 13.48 จุด หลัง ‘อิ๊งค์’ หลุดตำแหน่งนายกฯ

09-01

นายกฯคนใหม่เจอโจทย์หิน เร่งสร้างความเชื่อมั่น สร้างงาน สร้างรายได้

09-01

ธปท.ชี้นายกฯพ้นตำแหน่ง ภาพชัดขึ้นฟื้นความเชื่อมั่นคนลงทุน

09-01

ฌาน นิรามิสสุข คลอด 2 สินค้าใหม่ ‘น้ำมันรำข้าวเพลิน-THAM น้ำแร่ธรรมชาติ’

09-01

คปภ.ออกคำสั่ง เพิ่มความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับ-สมัครใจ สูงสุด 20 ล้าน ไม่ขึ้นเบี้ยประกัน

09-01

ลา โรช-โพเซย์ กางแผนติด Top3 ยอดขายสกินแคร์สูงสุดในไทย

09-01

พาณิชย์ออกประกาศ ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 68/69 สูงสุด กก. 9.80 บาท

09-01

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap