แบงก์ลดดอกเบี้ย 0.25% เร็วและเต็มที่ ช่วยบรรเทาภาระการเงินลูกหนี้ 5-7 พันล้านบาท

2025-08-19 HaiPress

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินแบงก์ลดดอกเบี้ยรอบล่าสุด เร็วและเต็มที่กว่ารอบก่อน ปรับลด 0.25% พบไม่บ่อย ช่วยบรรเทาภาระการเงินลูกหนี้ 5,000-7,000 ล้านบาท

ในช่วงกลางเดือน ส.ค. 2568 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และสถาบันการเงินเฉพาะกิจหลายแห่งทยอยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ไปที่ระดับ 1.50% ในการประชุมวันที่ 13 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา

“กาญจนา โชคไพศาลศิลป์” ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีมุมมองต่อการปรับลดดอกเบี้ยของแบงก์ในรอบนี้ ดังนี้

การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้รอบนี้ ส่งผ่านได้ “เร็วและเต็มที่” กว่ารอบก่อน ๆ ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่กลุ่ม D-SIBs (ยอดคงค้างสินเชื่อรวมกันประมาณ 85% ของระบบแบงก์ไทย) ประกาศปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เพียงขาเดียวในช่วง 1-2 วัน ภายหลังการประชุม กนง.รอบล่าสุด และเป็นที่น่าสังเกตว่า ขนาดการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ MLR MRR และ MOR ลง 0.25% ในรอบนี้ เท่ากับขนาดการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งไม่พบบ่อยในการปรับลดดอกเบี้ยช่วงที่ผ่านมา

ผลของการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงลงถึง 0.25% ทั้ง 3 ประเภท (MLR,MRR,MOR) จะช่วยบรรเทาภาระทางการเงินให้กับลูกหนี้ได้ถึง 5,000 ล้านบาท เทียบกับผลครั้งก่อนที่ 4,400-4,900 ล้านบาท

ภายใต้สมมุติฐานที่เริ่มคำนวณผลของภาระดอกเบี้ยเงินกู้รอบนี้ที่ลดลงในช่วงระหว่างเดือน ส.ค.-ธ.ค. 2568 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า สัดส่วนสินเชื่อธุรกิจและรายย่อยที่จะเข้าสู่ช่วงการปรับดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 56-58% ของสินเชื่อระบบแบงก์ไทย

ขณะที่ ผลจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ในรอบนี้ จะทำให้ภาระดอกเบี้ยปรับลดลงรวมกันประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยผลส่วนใหญ่จะอยู่ในสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบุคคลที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบ้านแลกเงิน

แม้การลดดอกเบี้ยจะส่งผลดีต่อสัญญาสินเชื่อที่ปล่อยใหม่ในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี ด้วยภาพเศรษฐกิจครึ่งหลังของปี 2568 ที่อาจขยายตัวได้ต่ำกว่าครึ่งปีแรก และยังมีความไม่แน่นอนอีกหลายประเด็นที่อาจกดดันความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกหนี้ ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงตัวเลขคาดการณ์ภาพรวมสินเชื่อระบบแบงก์ไทยในปี 2568 ไว้ที่ -0.6% ตามเดิม ซึ่งนับเป็นการติดลบของสินเชื่อระบบแบงก์ไทยเป็นปีที่สองติดต่อกัน สอดคล้องกับแนวโน้มหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีที่ยังอยู่ในช่วงขาลง ย้ำภาพ Debt Deleveraging ที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจากช่วงหลังวิกฤติโควิด-19

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

หุ้นไทยเช้านี้เปิดบวก 4.35 จุด ตลาดยังรอการเมืองชัดเจนต่อ

09-03

โอโมด้า แอนด์ เจคู่ ยอดจองท่วมท้น

09-03

เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัวโฆษณา “AIA Financial Advisor” รุกปั้นคนรุ่นใหม่ สู่อาชีพที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

09-03

ททท. ดัน Travel Tech Startup สู่อนาคตการท่องเที่ยวอัจฉริยะ

09-03

ดัชนีหุ้นปิดบวก 7.87 จุด สถาบัน-ต่างชาติซื้อเก็งกำไรเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 

09-03

รัฐบาลเร่งแจกทิ้งทวน เงินไร่ละพันนาปี นาปรัง ธ.ก.ส.ประเดิมโอนนาปรัง 6,280 ล้าน

09-03

ยืมเงินมีแบบไหนบ้าง เท่าไหร่ถึงฟ้องได้ เปิดโทษยืมไม่คืนติดคุกไหม

09-03

กยศ. คำนวณหนี้ใหม่เสร็จแล้ว เพิ่มอีกกว่า 4.3 แสนบัญชี แสดงผลผ่านแอป กยศ. Connect

09-03

‘หวยดิจิทัล’ งวดนี้แตก 162 ล้าน รวยกระจาย 20 คน เฮงสูงสุด 5 ใบ 30 ล้าน

09-03

ดีดแรงไม่หยุด! ราคาทองวันนี้ 2 ก.ย.ขึ้นรวดเดียว 300 บาท 

09-03

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap