2025-08-20 HaiPress
ครม.เห็นชอบให้ สพพ. ดำเนินการกู้ยืมเงินโดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคมเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของ สพพ. วงเงิน 1,000 ล้านบาท
วันที่ 19 ส.ค. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการกู้ยืมเงินโดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคมเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของ สพพ. วงเงิน 1,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานว่า ที่ผ่านมา สพพ. ได้ดำเนินการกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับ 1.โครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง
2.โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะมีการปรับลดลง กระทรวงการคลัง โดย สพพ. จึงเห็นควรให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นของ สพพ. โดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคม (Social Bond) เพื่อให้ สพพ. ได้รับต้นทุนที่เหมาะสม รวมถึงเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากความไม่สอดคล้องของอายุเงินที่ สพพ. กู้และอายุเงินที่ สพพ. ปล่อยกู้ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนเป็นการลดความผันผวนของต้นทุนในระยะยาว โดย สพพ. เตรียมการที่จะออกพันธบัตรเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2569
คณะกรรมการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (คพพ.) ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2567 มีมติเห็นชอบแผนการออกพันธบัตรเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของ สพพ. ประเภทสังคม สำหรับโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง สปป.ลาว จำนวน 913.25 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) สปป.ลาว จำนวน 690.03 ล้านบาท รวมวงเงิน 1,603.28 ล้านบาท โดยจะออกพันธบัตรเพื่อสังคม ภายใต้กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท และใช้เงินสะสมของ สพพ. ชำระคืนก่อนกำหนดกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) จำนวน 603.28 ล้านบาท โดยในการออกพันธบัตรมีเงื่อนไขการดำเนินการ ดังนี้
วงเงิน 1,000 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นของ สพพ. โดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคม
อายุ สอดคล้องกับอายุโครงการที่เหลือและเป็นไปตามสภาวะตลาด (10 ปี)
อัตราดอกเบี้ย คงที่ (ร้อยละต่อปี) คาดว่าประมาณ Government Bond Yield Curve 10 ปี บวก Spread ประมาณ บวก 90 bps
กลุ่มนักลงทุน นักลงทุนสถาบัน เช่น สถาบันการเงิน กองทุนรัฐบาล บริษัทประกัน เป็นต้น
การจัดจำหน่าย แบบเฉพาะเจาะจงให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันไม่เกิน 10 ราย (Private Placement 10: PP10)
การออกตราสารหนี้ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
การพิจารณาออก Social Bond เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของ สพพ. เป็นแนวทางในการบริหารจัดการหนี้ของ สพพ. สำหรับทั้งสองโครงการข้างต้นให้มีอายุเงินกู้ยาวขึ้นและอัตราดอกเบี้ยเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนทางการเงินของ สพพ. และเป็นนวัตกรรมทางการเงินของ สพพ. ที่สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมภาพลักษณ์ของ สพพ. และยกระดับมาตรฐานโครงการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ของ สพพ. ให้เป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้ อาจมีขั้นตอนการดำเนินการในการออกพันธบัตร การสอบถาม และการรายงานต่างๆ ที่มากกว่าการออกพันธบัตรทั่วไป
อัตราผลตอบแทนของ Social Bond ของ สพพ. จะขึ้นอยู่กับอัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ขึ้นกับหลายปัจจัย ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของ Social Bond สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ สพพ. กู้ ธสน. ในอัตราร้อยละ 2.65 ต่อปี ดังนั้น หาก สพพ. ดำเนินการออกพันธบัตรไม่สำเร็จหรือมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการออก Social Bond ไม่คุ้มค่า สพพ. อาจพิจารณาดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในรูปแบบอื่นแทน
08-20
08-20
08-20
08-20
08-20
08-20
08-20
08-20
08-20
08-20