แบงก์ชาติ เปิดข้อมูลมิจฯหลอกโอนเงินใน 3 นาที เหยื่อรู้ตัวอีกที 18 ชั่วโมงต่อมา

2025-09-22 HaiPress

แบงก์ชาติ เปิดข้อมูลสำรวจคนไทย พบว่า 70% เคยถูกชักชวนหรือหลอก โดยเงินกว่า 50% ถูกโอนออกใน 3 นาที ขณะที่เหยื่อใช้เวลาเฉลี่ย 18 ชั่วโมงกว่าจะรู้ตัวและแจ้งความ

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการเงินดิจิทัลพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีการใช้พร้อมเพย์ 76 ล้านรายการต่อวัน และมีมูลค่าการโอนเงินเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า 1.44 แสนล้านบาท แต่ภัยการเงินก็มีไม่น้อยเช่นกัน จากการสำรวจคนไทย พบว่า 70% เคยถูกชักชวนหรือหลอก และกว่า 30% ได้รับความเสียหาย โดยเงินกว่า 50% ถูกโอนออกใน 3 นาที ขณะที่เหยื่อใช้เวลาเฉลี่ย 18 ชั่วโมงกว่าจะรู้ตัวและแจ้งความ ทำให้การรับมือของสถาบันการเงินต้องแข่งกับเวลาอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ ภัยการเงินที่รุนแรงขึ้นในขณะนี้ แม้การเงินดิจิทัลจะสร้างความสะดวกและโอกาสทางเศรษฐกิจ แต่ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงทางการเงินที่คุกคามประชาชน การจะสร้างสมดุล เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างมั่นใจนั้น ต้องพัฒนา 3 องค์ประกอบหลักควบคู่กัน คือ เทคโนโลยี การกำกับดูแล และข้อมูล โดยในเรื่องเทคโนโลยี เป็นองค์ประกอบหลักในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ และยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงจากนวัตกรรมด้วย แต่เพียงเทคโนโลยีอย่างเดียวยังไม่เพียงพอที่จะสร้างระบบการเงินที่ปลอดภัยและยั่งยืนได้

ส่วนเรื่องการกำกับดูแลที่เหมาะสม เพื่อวางกติกา และสร้างรั้วป้องกันความเสี่ยงจากเทคโนโลยี และส่งเสริมการเข้าถึงไปพร้อม ๆ กัน และข้อมูล ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ และผลักดันให้การพัฒนาการเงินดิจิทัลตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ และเติบโตได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน

สำหรับในด้านการกำกับดูแล จะเห็นได้ว่า ภัยการเงินเกิดได้หลายรูปแบบหลายช่องทาง และเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วนในห่วงโซ่การหลอกลวง โดยมิจฉาชีพอาศัยช่องโหว่ในห่วงโซ่นี้เพื่อหลอกลวงและปกปิดเส้นทางการเงิน ดังนั้นการจัดการภัยการเงินจะขาดประสิทธิภาพหากผู้ให้บริการมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ไม่เท่ากัน,ข้อมูลของภาคส่วนต่าง ๆ ในห่วงโซ่ไม่เชื่อมโยงและไม่สามารถใช้ร่วมกันได้,การกำกับดูแล และกำหนดอำนาจหน้าที่ยังไม่ครอบคลุมทั้งระบบ และกฎระเบียบยังไม่เท่าทันปัญหาและโลกดิจิทัล

“ต้องให้ความสำคัญกับการกำหนดมาตรฐานให้ผู้ให้บริการมีกระบวนการป้องกัน ตรวจจับ รับมือกับภัยการเงิน การกำหนดอำนาจหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ อย่างครอบคลุม และปรับกฎเกณฑ์ให้เท่าทันการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วน เช่น การผลักดัน พ.ร.ก.ไซเบอร์ เพื่อกำหนดอำนาจหน้าที่ของทุกภาคส่วนให้ชัดเจนและเท่าทันกับปัญหา รวมถึงมีแนวนโยบายในการกำหนดความรับผิดชอบของภาคส่วนต่าง ๆ การผลักดันมาตรฐานให้ผู้ให้บริการทางการเงินต้องมีกระบวนการป้องกัน ตรวจจับ และรับมือกับภัยการเงิน เช่น มาตรฐานความปลอดภัยโมบายแบงก์กิ้ง และมาตรการจัดการบัญชีม้าทั้งระบบ”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

เมืองไทยประกันชีวิต ขึ้นทะเบียน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO)” กับ อบก. ต่อเนื่องปีที่ 3

09-30

ชัดๆคนละครึ่งล่าสุด 2568 ลงทะเบียนวันไหน ได้กี่บาท เริ่มใช้จ่ายเมื่อไหร่

09-30

ธพส. เพิ่ม EV Shuttle Bus วิ่งศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ 12 คัน รับ – ส่ง ฟรี

09-30

“แอมเวย์จีน” พานักธุรกิจหมื่นคนเดินทางจัดสัมนาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวไทย

09-30

แนะรัฐบาลฟื้นเชื่อมั่น กระตุ้นเศรษฐกิจ ปรับโครงสร้างเร่งปฏิรูปการคลัง

09-30

หุ้นไทยเช้านี้บวกแรง 10.16 จุด เด้งรับ ครม.แถลงนโยบายต่อสภาฯ

09-30

สยามพารากอน อัดงบ 1,250 ล้านบาท เปิด 3 Attractionsใหม่ 

09-30

เปิดวิธีจัดลำดับเป้าหมายการเงินด้วย Eisenhower Matrix

09-30

ค่าเงินบาท แข็งค่า 32.22 บาท สอดคล้องทิศทางเงินหยวน-สกุลเงินในเอเชีย

09-30

ค่าเงินบาท 32.26 บาท อ่อนค่าเล็กน้อย แม้ราคาทองพุ่งทำสถิติใหม่

09-30

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap