ธนาคารไทยเครดิต ได้รับการจัดอันดับเครดิต ‘A(tha)/F1(tha)’ จาก Fitch Ratings มีเสถียรภาพ ตอกย้ำธุรกิจแกร่ง

2025-09-28 HaiPress

ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Ratings) ที่ระดับ ‘A(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ระดับ ‘F1(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต ‘มีเสถียรภาพ’ จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)

ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Ratings) ที่ระดับ ‘A(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ระดับ ‘F1(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต ‘มีเสถียรภาพ’ จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำศักยภาพการบริหารธุรกิจที่แข็งแกร่ง ดำเนินกิจการบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง สะท้อนผลการดำเนินการที่ปรับตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การจัดอันดับครั้งนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) สะท้อนถึงรูปแบบธุรกิจเฉพาะทางของธนาคารไทยเครดิต ในการมุ่งเน้นให้สินเชื่อในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs) รวมถึงมีอัตรากำไรที่อยู่ในระดับสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในระดับที่ค่อนข้างดี อีกทั้งมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่สูงกว่าอุตสาหกรรมธนาคาร และมีกำไรที่แข็งแกร่งจากประโยชน์ของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่สูง โดยฟิทช์คาดว่าความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร จะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในระยะสั้น

โดยผลประกอบการภาพรวม ของธนาคารไทยเครดิตเติบโตแบบ ‘Double Digit’ จากการบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อและคุณภาพสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในครึ่งปีแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,828.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และผลกำไรสุทธิไตรมาส อยู่ที่ 925.2 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 12.8 แสดงถึงศักยภาพในการสร้างผลดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ

นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ ‘A(tha)/F1(tha)’ จากฟิทช์ เรทติ้งส์ ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางการเงินของธนาคารไทยเครดิต รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นสร้างสมดุลระหว่างการขยายพอร์ตสินเชื่อและการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ระดับที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว”

นอกจากมิติทางการเงินมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแล้ว ธนาคารไทยเครดิตยังคงเดินหน้าสร้างความแตกต่างผ่านกลยุทธ์ Responsible Banking ที่เชื่อมโยงการเติบโตทางธุรกิจกับการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้จุดแข็งในการเข้าถึงผู้ประกอบการรายย่อยและพ่อค้าแม่ค้าทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินดิจิทัล เพื่อเสริมศักยภาพลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างวินัยทางการเงินของผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตอย่างมั่นคง ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ เพื่อวางรากฐานการเติบโตระยะยาวที่สมดุลในด้านการลงทุนผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ตลอดจนการสร้างคุณค่าทางสังคมต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกมิติ ตามปรัชญาธนาคาร “Everyone Matters – ทุกคนคือคนสำคัญ”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

Letter from China: Caves, mountains in China's Guilin embody myth, memory, art

10-30

แจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ย. 2568 ได้กี่บาท รัฐโอนเงินเพิ่ม ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง

10-29

รัฐบาลยืนยันเอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธ ไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมาย

10-29

ผิดหวังนายกฯ ไม่รักษาผลประโยชน์ประเทศ MOU แร่หายากให้สิทธิ์ต่างชาติเหนือคนไทย

10-29

ปตท.เลิกกิจการ ‘สวอพ แอนด์ โก’ ธุรกิจสลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

10-29

พิชัย โต้สมัยเป็นหัวหน้าทีมเจรจาสหรัฐ ไม่เคยหารือประเด็นแร่หายาก แนะรัฐบาลระวังปมภูมิรัฐศาสตร์

10-29

“มิตซูบิชิ” พร้อมใส่ใจ-ดูแลบริการ

10-29

มูดี้ส์คงอันดับเครดิต ‘ไทยออยล์’ ชี้งบดุลแกร่ง ลดหนี้ต่อเนื่อง CFP เดินหน้าตามแผน

10-29

ครึ่งวันหุ้น ‘เถ้าแก่น้อย’ร่วงไปแล้ว 9.90% หลัง ‘ต๊อบ’ ประกาศลาออก

10-29

รมว.คลัง เปิดแนวทางการออมหักภาษีใหม่ ใช้แทน RMF และ LTF

10-29

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap