พาณิชย์ ชงนายกฯ ตั้งบอร์ดปราบนอมินีชุดใหม่ ดึงรองนายกฯ นั่งหัวโต๊ะ เพิ่ม 4 หน่วยไล่จับ  

2025-10-15 HaiPress

พาณิชย์ ชงนายกฯ ตั้งบอร์ดปราบนอมินีของห่วยชุดใหม่ สั่งรื้อโครงสร้าง ดึงรองนายกฯ นั่งหัวโต๊ะ เพิ่ม 4 หน่วยงานตรวจละเอียด กรมพัฒน์ ปรับแผนตรวจ โฟกัสให้ถูกจุด เจาะลึกกลุ่มเสี่ยง  

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า  กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เพื่อลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศฝ่าฝืนกฎหมาย ชุดใหม่ หลังคณะกรรมการชุดเดิมหมดวาระลงตามรัฐบาลชุดก่อน โดยการเสนอครั้งนี้ จะมีการปรับโครงสร้างการทำงานภายใน จากให้ รมว.พาณิชย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นประธาน เพราะต้องทำงานร่วมกับ 20 หน่วยงาน และส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในการกำกับของกระทรวงพาณิชย์

นอกจากนี้ ได้เพิ่มหน่วยงานใหม่อีก 4 หน่วยงาน คือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้ามาร่วมในคณะกรรมการฯ โดยหลักการทำงาน ไม่ใช่ดำเนินการกับสินค้าและธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ต้องเปิดทางให้คนดี ธุรกิจดี ที่พร้อมอยู่ภายใต้กฎหมายได้รับการสนับสนุนด้วย

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังได้ปรับวิธีการตรวจสอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงเป็นนอมินีใหม่ จากเดิมมีการตรวจต่างด้าวเข้ามาถือหุ้นตั้งแต่ 0.001-49.99% ใน 6 ธุรกิจเสี่ยง จำนวน 46,918 รายใหม่ ให้เป็นการตรวจแบบโฟกัส โดยเพิ่มเงื่อนไขการตรวจสอบเจาะจงเชิงลึกลงไปว่าธุรกิจนั้น ๆ มีความเสี่ยงที่จะเป็นนอมินีจริง จากเดิมที่ดูแค่จำนวนผู้ถือหุ้น โดยคาดว่าหลังการปรับหลักเกณฑ์ใหม่จะทำให้โฟกัสกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น เหลือธุรกิจที่ต้องตรวจสอบเร่งด่วนหลักพันราย ซึ่งเมื่อตรวจสอบครบแล้ว ก็จะขยายผลไปตรวจสอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยลงต่อไป

“การปรับจำนวนธุรกิจเสี่ยงที่จะเข้าไปตรวจสอบ จะช่วยให้โฟกัสตรงจุดมากขึ้น เพราะเดิมกำหนดไว้ว่าจะตรวจสอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงตั้งแต่ 1 เดือน ไปจนถึง 1 ปี ซึ่งจังหวัดที่มีนิติบุคคลเสี่ยงน้อย ก็ตรวจเร็ว แต่จังหวัดที่มีนิติบุคคลเสี่ยงสูงมาก โดยจังหวัดที่มีนิติบุคคลมาก ตั้งแต่ 6 พันถึง 1.5 หมื่นราย มีถึง 4 จังหวัด คือ ชลบุรี กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต แต่เมื่อปรับใหม่ จะทำให้ธุรกิจเสี่ยงเหลือน้อยลง ก็จะพุ่งเป้าไปตรวจสอบได้ตรงจุดมากขึ้น”

สำหรับธุรกิจเสี่ยง ที่จะตรวจสอบยังอยู่ในเป้าหมายเดิม คือ ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ขนส่งและคลังสินค้า ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการเกษตร (ล้ง) และธุรกิจก่อสร้างทั่วไป  ส่วนธุรกิจเกาะสมุย เกาะพะงัน ที่มีข่าวคนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก อยู่ในแผนที่กรมกำลังตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว โดยขณะนี้กำลังตรวจสอบรายใหญ่ ประมาณ 10 กว่าราย ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม คอนโดมิเนียม ร้านอาหาร และท่องเที่ยว รวมไปถึงรายกลางรายเล็ก ที่มีอยู่ประมาณ 7 พันราย ด้วย

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

การแข่งขันกอล์ฟเชิญอาเซียนคัพ 2025 สิ้นสุดลงด้วยความสำเร็จในเมืองซานย่า สร้างสะพานใหม่สำหรับการแลกเปลี่ยนกีฬาและวัฒนธรรมระหว่างจีนและอาเซียน

10-28

วิธีเช็กการเงินตัวเอง มีปัญหาให้รีบทำสิ่งนี้! เลิกใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน

10-27

ออมสิน เปิดตัวกระปุก “แสงแห่งการออม”

10-27

พาณิชย์ ชงใหญ่ นบข. ตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือก 3 ล้านตัน รับนาปีทะลัก

10-27

ดัชนีปิดบวก 11.56 จุด นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นแบงก์

10-27

กรุงไทยเปิดจุดบริการพิเศษ คนละครึ่งพลัส แอปเป๋าตัง-ถุงเงิน 25-26 ต.ค.นี้

10-27

ผ้าไทย โตแรงสู่แฟชั่นระดับโลก ปี 68 จดทะเบียนตั้งเพิ่ม 4 เท่า มูลค่า 684 ล้าน

10-27

กรุงไทย แจ้งย้ายแอปด่วนจาก ‘เป๋าตุง’ เป็น ‘ถุงเงิน’ ใช้งานก็ง่าย แถมทันสมัยกว่า

10-27

กรุงไทย แนะซื้อสลากบนเป๋าตังไม่ได้ ให้เว้นระยะ ก่อนเข้าใช้งานอีกครั้ง

10-27

รัฐบาลเดินหน้าลดค่าไฟประชาชน ดันโซลาร์ฟาร์มชุมชน-โซลาร์สูบน้ำ เข้าครม. 28 ต.ค.นี้

10-27

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap