2025-10-27 HaiPress

ด่วน! ‘ธนกร’ รมว.อุตสาหกรรม ยอมรับแล้ว ถอนอายัดเหล็กซินเคอหยวนจริง แต่เกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว ก่อนตนเข้ารับตำแหน่ง เป็นเหล็กจากเหตุไฟไหม้ ไม่ใช่เหล็ก สตง.
วันที่ 24 ต.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงประเด็นการถอนอายัดผลิตภัณฑ์เหล็กของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ว่า การถอนอายัดเหล็กบางส่วนได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาของรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ตนยังไม่ได้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ วันที่มีการถอนอายัดส่วนแรก เป็นการดำเนินการคืนผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานกองแรกจำนวน 16,950 เส้น มีผลตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568
ส่วนวันที่ตนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น รมว.อุตสาหกรรม คือวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568 และเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568 ดังนั้น การตัดสินใจหรือการดำเนินการใดก่อนวันที่ 19 กันยายน 2568 จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีชุดเดิม ตนจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งการในเรื่องนี้แต่อย่างใด
สำหรับสาเหตุการอายัดเหล็กทั้งหมดของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด สืบเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้ภายในโรงงาน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งมีการเข้าเก็บตัวอย่างตรวจสอบในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 กรณีนี้จึงไม่ใช่เหล็กจากเหตุการณ์ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ถล่ม ตามที่มีความสับสนในสื่อ

นายธนกร กล่าวอีกว่า ข้อเท็จจริงเรื่องการถอนอายัดตามข้อมูลสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) นั้น กองที่ยังอายัด/ดำเนินคดี โดยที่ผลสอบคือตกมาตรฐาน สมอ. ได้อายัดผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นไว้ จำนวน 2,690 เส้น ซึ่งอายัดเมื่อ 9 มกราคม 2568 เนื่องจากผลการตรวจสอบพบว่า ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งในส่วนประกอบทางเคมี โดยธาตุโบรอนเกิน และส่วนสูงของบั้ง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่กองที่ถอนอายัด และผลตรวจสอบผ่านมาตรฐานนั้น สมอ. ได้ดำเนินการคืนผลิตภัณฑ์เหล็กข้ออ้อยที่ผ่านการตรวจสอบรวมทั้งสิ้น 41,635 เส้น โดยอายัดเมื่อ 9 มกราคม 2568
ซึ่งการคืนผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ครั้ง คือ 16,950 เส้น อนุมัติถอนอายัด 12 ก.ย. 2568 และ 24,685 เส้น อนุมัติถอนอายัด 30 ก.ย. 2568 เนื่องจากผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่เก็บไป เป็นไปตามมาตรฐาน
นายธนกร กล่าวต่อไปอีกว่า การดำเนินการทุกขั้นตอนมีการตรวจสอบทางเทคนิคจากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างเช่น สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (สลท.) ซึ่งมีภารกิจในการให้บริการทดสอบและวิเคราะห์โลหะตามมาตรฐาน เพื่อยืนยันคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างแม่นยำและเป็นไปตามหลักวิชาการ
ขณะที่การถอนอายัดในกรณีดังกล่าว เป็นการถอนอายัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผ่านหรือเป็นไปตามเกณฑ์การตรวจสอบแล้วเท่านั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่บริษัทที่ประกอบธุรกิจสุจริต ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่ว่าต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้ประกอบการ หากผลิตภัณฑ์นั้นถูกต้องตามมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมจะเดินหน้าปราบปรามเหล็กเถื่อนและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเด็ดขาด และในขณะเดียวกัน ก็จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกคนที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรมและคุ้มครองความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนสูงสุด
“เพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างสมบูรณ์ และเพื่อความมั่นใจสูงสุดของประชาชน จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบของเกี่ยวกับเหล็กที่อายัดทั้งหมดมาจากกรณีการเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 68 โดยแบ่งเป็น 2 กอง ได้แก่
กองที่ 1 จำนวน 2,690 เส้น อายัดเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 68 ผลการตรวจสอบตกมาตรฐานจากส่วนประกอบทางเคมี รวมถึงการควบคุมคุณภาพไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และไม่มีเตาปรุง
กองที่ 2 จำนวน 41,63 เส้น อายัดเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 68 แบ่งเป็น 16,950 เส้น ผ่านการทดสอบมาตรฐาน อนุมัติถอนอายัด 12 ก.ย. 68 และ 24,685 เส้น ผ่านการทดสอบมาตรฐาน อนุมัติถอนอายัดวันที่ 30 ก.ย. 68
10-28
10-27
10-27
10-27
10-27
10-27
10-27
10-27
10-27
10-27